บันทึกน้องวชิอายุ 1 ขวบ 3 เดือน เดิน กินเก่ง พูดเยอะ

เชอรี่อยู่กับน้องวชิทุกวัน ได้เห็นพัฒนาการของน้องวชิตลอด ทำให้ตื่นเต้นดีใจเพราะลูกโตขึ้นทุกวันเลยขอบันทึกเรื่องราวดีๆ ไว้หน่อยค่ะ

ร่างกาย - สุขภาพ

• น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ส่วนสูงอยู่กราฟบน น้ำหนักอยู่กราฟล่าง เลยออกแนวผอมเพรียว 
• แข็งแรงมาก เคยป่วย 1 ครั้งตอนอายุครบ 1 ครบ เชอรี่เชื่อว่าที่น้องวชิแข็งแรงอย่างนี้เพราะพลังนมแม่ และกินอาหารที่มีประโยชน์

ความฟินเมื่อได้จุ๊บนมหม่ามี๊ ต้องแกว่งเท้าไปด้วย

• ฟันคู่ที่ 5 มาแล้ว คือฟันกราม จากที่ชอบเคี้ยวอยู่แล้ว คราวนี้สบายเลย เคี้ยวแหลก กินอัลมอนด์เป็นเม็ดเลย

พัฒนาการ

• เดินแล้ว หลังจากที่จับมือป่าปี๊หม่ามี๊เดินมาหลายเดือน อยู่ดีๆ น้องวชิก็เซอร์ไพรส์ หยิบหนังสือเดินเข้ามาหาหม่ามี๊ เดินครั้งแรกเกือบ 10 ก้าวเลย ตกใจ 555

VDO น้องวชิเดินได้วันที่ 2 (เดินได้ก็วิ่งเลย 55) -> https://www.facebook.com/iamwachi2015/

• พูดเยอะมาก เวลาเจออะไรก็จะชี้แล้วบอกได้
• เรียกชื่อตัวเอง ชอบพูดชื่อตัวเอง ป่าปี๊หม่ามี๊บ้าเห่อ ติดรูปน้องวชิไว้เต็มห้อง ชอบจูงมือป่าปี๊หม่ามี๊มาที่รูปตัวเองก็จะชี้ "ชิ ชิ ชิ" แล้วก็ยิ้มเขิล รู้ว่าเป็นรูปตัวเอง Advance ขึ้นไปอีกคือเวลาอ่านหนังสือแล้วเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ในหนังสือก็จะชี้แล้วบอก "อ๊ะ ชิ๊" ด้วยเหมือนกัน
• บอกได้ว่าต้องการอะไร สื่อสารกันเข้าใจอย่างนี้ จากที่เลี้ยงง่ายอยู่แล้ว ช่วยให้ง่ายกว่าเดิมเยอะเลย
• น้องวชิชอบให้ป่าปี๊หม่ามี๊อ่านหนังสือให้ฟังมาก หลายอย่างอ่านไปไม่กี่ครั้งก็จำได้แล้ว เวลาว่างๆ น้องวชิจะชอบหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเอง แล้วก็พูดว่ามันคือภาพอะไร

• ตั้งแต่น้องวชิมีความมั่นใจเรื่องการทรงตัวมากขึ้นจนเดินได้ วิทยายุทธในการปีนก็เก่งขึ้นทุกวันเช่นกัน เวลาปีนหรือเดินก็ว่องไวเป็นลิงจนป่าปี๊หม่ามี๊จับแทบไม่ทัน เดี๋ยวนี้เวลาเห็นสไลด์เดอร์จะวิ่งเข้าหาทันที ปีนขึ้นเอง หันหลังแล้วก็ไถลลงมาอย่างว่องไว โดยไม่รอป่าปี๊หม่ามี๊ช่วยจับเลย น่ากลัวจะตีลังกาลงมาซะจริงๆ ป่าปี๊หม่ามี๊ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ (Step นี้ได้จากการเรียน Gymboree ต้องหันหลังลงทุกครั้ง เปะทุกรอบ 555)

ปีนขึ้นทางชันได้สบายมากฮะ

อาหาร

• กินเก่ง กินผัก ผลไม้ได้ทุกอย่าง ชอบกินหัวหอมใหญ่
• กินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว
• ปรุงรสด้วยแค่ซีอิ๊วขาวนิดหน่อยเพราะกลัวติดรสชาติและไตทำงานหนัก
• เริ่มฝึกใช้ช้อนส้อมตักอาหารเอง แต่ยังตักไม่เก่ง เละเทะ
• เริ่มดื่มน้ำมะพร้าว ชอบมาก เป็นน้ำผลไม้ชนิดเดียวที่เชอรี่อนุญาตให้กิน ส่วนน้ำหวานอื่นๆ ยังไม่อนุญาตเช่นกันเพราะเดี๋ยวติดใจแย่เลย
• ยังไม่เคยกินขนมทุกชนิด เพราะกลัวอิ่มแล้วไม่ยอมกินข้าว
• กินนมแม่ล้วน กินจากเต้า ไม่ได้กินจากแก้วเลยเพราะเชอรี่ไม่ได้ปั๊มนม จะได้ปั๊มแค่ตอนที่คัด เอามาทำเป็นไอศรีมให้น้องวชิหม่ำ แป๊บเดียวก็หมดแล้ว

กินเก่งมาก ป้อนอะไรก็หมดเกลี้ยง

นอน

• เข้านอน 1 ทุ่ม อ่านหนังสือนิดหน่อย ปิดไฟนอนไม่เกิน 1 ทุ่มครึ่ง หลับปุ๋ยทันที
• ตื่นกลางดึกคืนละ 1 ครั้ง คว้าหานมหม่ามี๊ งับได้ปุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ หลับปุ๋ย
• ตื่นนอน 7.30 น. เป็นเด็กดีมาก ไม่เคยปลุกหม่ามี๊เลย จะคว้าหนังสือตรงหัวเตียงมาอ่านรอ จนกว่าหม่ามี๊จะตื่น
• เรานอนกัน 2 คน เอ็มแยกไปนอนอีกห้องให้ 2 แม่ลูกได้นอนกอดกันอย่างเต็มที่ (ที่จริงคือวชินอนดิ้น ไม่มีที่เหลือ)
• นอนดิ้นมาก เชอรี่เข้านอนดึกๆ บางคืนเหลือปลายเตียง บางคืนต้องนอนทะแยง ลูกชายเค้าเหลือให้เท่านี้

เห่อรองเท้าใหม่ ใส่ทั้งวันไม่ยอมถอด

ชอบ

• อ่านหนังสือ บางครั้งก็อ่านเอง บางครั้งก็อยากให้ป่าปี๊หม่ามี๊อ่านให้ฟัง วิธีการที่จะให้ช่วยอ่านหนังสือคือ ยื่นเล่มที่จะให้อ่านให้ฟังแล้วร้องอื้อๆ ยื่นจนกว่าป่าปี๊หม่ามี๊จะรับหนังสือแล้วอ่านให้ฟัง น้องวชิจะตั้งใจฟังสุดๆ ให้อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก พอจบแล้วก็หาเล่มใหม่มาให้อ่านต่อ

• วาดรูป ชอบขีดเขียน เชอรี่เลยซื้อสีเทียน กับสีไม้แท่งใหญ่ๆ มาให้วาดรูปโชว์ฝีมือ
• ร้องเพลง 
• เต้น เป็นเด็กเท้าไฟเสมอต้นเสมอปลาย ได้ยินเสียงเพลงไม่ได้ อย่างเพลงมาร์ชยอดฮิตของเด็กทุกคนคือ "Twinkle twinkle little star" ถ้าได้ยินเพลง if you're happy and you know it clap your hands ก็จะปรบมือทุกครั้ง เพลง Row, Row, Row your boat จะต้องโยกตัวซ้ายขวาเหมือนอยู่ในเรือ
• ชอบมิกกี้เมาส์ เวลาได้ใส่เสื้อผ้า รองเท้า หมวก จะดีใจมาก เรียก จิ๊กจี้ (มิกกี้) โชว์ตลอดเลย

เหตุการณ์สำคัญ

• วันแม่ เป็นวันแม่ปีที่ 2 ของน้องวชิ เอ็มแอบซื้อพวงมาลัยมาให้น้องวชิไหว้ น้องวชิยังไม่ค่อยรู้เรื่อง กอดหม่ามี๊เป็นอย่างเดียว แค่นี้ก็ซึ้งแล้ว

• ไปเที่ยวเขาใหญ่ กลับจากขอนแก่นเราก็ไปเขาใหญ่กันต่อ เรียกว่าเป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว

• เดือนที่แล้วนั่งเครื่องบินครั้งแรก แล้วอีก 2 อาทิตย์เราก็ไปสิงคโปร์กันเลย ตื่นเต้นมาก

ยังมีอีกหลายเรื่องมากมายที่อยากจะบันทึกถึงเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้

อยากบอกว่าป่าปี๊หม่ามี๊ "รักน้องวชิที่สุดเลยนะครับ"

เมนูลูกรักน้ำฟักทอง : หวานอร่อย ราคาถูก ดีต่อใจ ดีต่อกาย

เชอรี่เป็นคุณแม่เต็มเวลาที่ทำอาหารให้ลูกกินเองทุกมื้อ เมนูก็วนซ้ำไปซ้ำมา โชคดีที่น้องวชิเป็นเด็กกินง่าย ทำอะไรให้กินก็กินได้หมด ทำแต่เมนูข้าว ไม่เคยทำเมนูของหวานให้สักที จนมีวันหนึ่งคุณยายของเพื่อนน้องวชิเอาน้ำฟักทองมาฝาก เชอรี่ก็กลัวเค้าใส่น้ำตาล เพราะกลัวติดหวานและฟันผุ ถามส่วนผสม ได้คำตอบว่าใช้ฟักทองล้วนๆ เลยให้น้องวชิลองชิม ...

พอช้อนแรกเข้าปากเท่านั้นแหละ ติดใจ ให้ป้อนไวๆ แป๊บเดียวหมดชามเลย คราวนี้แม่เลยต้องถามวิธีทำมาทำให้ลูกชายกินเองบ้าง

++ เมนูนี้สามารถให้ลูกทานได้ตั้งแต่ 6 เดือนเลยนะคะ ++

วิธีทำ

วิธีทำง่ายมากๆ เลยค่ะ เลยอยากจะแชร์เมนูอร่อยดี มีประโยชน์ให้ลูกๆ ของเรานะคะ

1. เลือกฟักทอง 1 ชิ้น เชอรี่เลือกฟักทองออร์แกนิกเพราะกลัวสารพิษ รวมถึงผักทุกชนิดด้วย

2. แช่น้ำยาล้างผักแล้วล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น และคว้านเมล็ดออก

3. นึ่งฟักทองจนสุก

4. ตัดเอาแต่เนื้อฟักทองนึ่ง

5. ใส่เครื่องปั่น

6. ใส่น้ำที่มากับฟักทองนึ่ง และเติมน้ำต้มสุกด้วย น้ำฟักทองจะได้ไม่ข้นจนเกินไป

7. ปั่นให้ละเอียดจนเนื้อเข้ากันดี

8. ต้มจนเดือด

9. แค่นี้เราก็ได้น้ำฟักทองแสนอร่อยแล้วค่ะ

10. จากนั้นก็ตักใส่ถ้วย แบ่งพอดีแต่ละมื้อ จะได้ไม่เหลือ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเอาตู้เย็นเข้าช่องธรรมดา กินแบบเย็นๆ หวานชื่นใจมากค่ะ

ทำครั้งละไม่เยอะดีกว่านะคะ เพราะเก็บไว้ได้แค่ 2 วันเอง 

ฟักทอง

ฟักทองมีสารอาหารเยอะมากมายทั้งช่วยบำรุงสายตา สร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพร่างกาย ช่วยลดความเสียงจากหลายๆ โรค ถึงจะมีประโยชน์เยอะมากแต่ไม่ควรให้ลูกกินในปริมาณที่เยอะเกินไป เพราะฟักทองทำให้อึเหนียว อาจทำให้ท้องผูกได้ และมีแคโรทีนสูง ถ้ากินเยอะอาจทำให้ลูกตัวเหลืองได้  แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะไม่มีอันตรายใดๆ แค่หยุดกินไม่กี่วัน ผิวก็กจะลับมาสภาพปกติค่ะ 

เป็นอีกหนึ่งเมนูง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถทำให้เป็นอาหารว่างระหว่างวันให้ลูกๆ ได้นะคะ

อ่านเพิ่ม

• ข้าวตุ๋นปลาแซลมอน เมนูโปรดลูกวัย 1 ขวบ ทำง่าย อร่อย มีประโยชน์
• ข้าวต้มตับหมู เมนูสำหรับลูกน้อยวัย 7 เดือนขึ้นไป ทำง่าย อร่อย ประโยชน์ครบครัน
• คุณแม่มือใหม่เข้าครัวทำอาหารเสริมมื้อแรกให้ลูกน้อยอายุ 6 เดือน
• วิธีทำอาหารเสริมลูกอายุ 7 เดือนขึ้นไป ข้าวตุ๋น ผัก เนื้อสัตว์ น้ำซุป

น้องวชิ 1.7 ขวบ ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เข็มที่ 2 กับป้าหมอสุธีรา พร้อมรับคำแนะนำ

21 ธ.ค. 59 น้องวชิอายุ 1 ขวบ 7 เดือน 17 วัน มีนัดฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เข็มที่ 2 กับป้าหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ  เวลา 9.30 น. เราไปถึงทันเวลาพอดี รอไม่นานพี่พยาบาลก็เรียกน้องวชิเข้าไปวัดความสูง ชั่งน้ำหนัก

น้ำหนัก-ส่วนสูง

น้ำหนัก 9.4 กก. ส่วนสูง 83 ซม. ในเวลา 2 เดือน น้ำหนักกับส่วนสูงขึ้นมา 3 กก. กับ 3 ซม. ป้าหมอบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้ำหนักอยู่กราฟสีเหลืองเหมือนทุกครั้ง ส่วนสูงก็อยู่กราฟสีเขียวเหมือนเดิม ป้าหมอบอกว่าเป็นเด็กหุ่นดี ไม่ต้องพยายามทำให้อ้วน ผู้ใหญ่หุ่นอย่างนี้เรียกว่าหุ่นดี แล้วทำไมต้องให้เด็กอ้วนด้วย ให้รักษาหุ่นอย่างนี้ไปเรือยๆ

ป้าหมอบอกว่าหุ่นณเดชน์ ไม่รู้ว่าหน้าเหมือนณเดชน์บ้างไหมฮะ

วัคซีนที่ฉีด

วัคซีนที่ฉีดเข็มเดียวเลยคือ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นเข็มที่ 2 แล้ว ปีที่แล้วฉีดเข็มแรกช่วงนี้เมื่อปีที่แล้ว ป้าหมอบอกว่าหลังฉีดส่วนใหญ่จะไม่มีไข้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

ก่อนฉีด ป้าหมอตรวจทั่วไปเหมือนทุกครั้ง ให้อ้าปาก ตรวจหู ฟังเสียงหัวใจ น้องวชิให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะก่อนมา ป่าปี๊พาซ้อมเล่นคุณหมอมาหลายรอบเลย แล้วก็บอกว่าป้าหมอใจดี มันได้ผลจริงๆ

แต่พอป้าหมอจะฉีดยา ให้ป่าปี๊อุ้มน้องวชิพาดบ่า ก็เกิดร้องไห้ขึ้นมาซะงั้น สงสัยจำได้ว่าตอนฉีดยามันเจ็บก้น แต่ร้องไม่นานก็หยุด เฮ้ออออ นึกว่าจะระเบิดโรงพยาบาลซะแล้ว

กลับถึงบ้านไม่มีไข้ครับ ช่วยหม่ามี๊เก็บผ้าใส่ตู้ด้วยครับ

ป้าหมอถาม

และคำถามแรกก็เหมือนทุกครั้ง คือ ...

ป้าหมอ : กินนมยี่ห้ออะไรคะ
เชอรี่ : กินนมแม่ค่ะ

ป้าหมอ : นมแม่ล้วนหรือผสมนมอย่างอื่นไหม
เชอรี่ : ไม่มีผสมค่ะ นมแม่ล้วนอย่างเดียวเลย
ป้าหมอ : เยี่ยม

ป้าหมอ : เริ่มพูดยังคะ
เชอรี่ : พูดแล้วค่ะ พูดเยอะมาก พูดไม่หยุดเลย -"-

ป้าหมอ :  ทานข้าวได้ไหม ถึงมื้อละ 10 ช้อนโต๊ะหรือเปล่า
เชอรี่ :ทานเก่งมากค่ะ เกินทุกมื้อ

ป้าหมอ : เคยหาหมอฟันบ้างหรือยัง
เชอรี่ : หาแล้วค่ะ ได้เคลือบฟลูออไรด์

ถามป้าหมอ

เชอรี่ : ปกติเค้าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ฟังรู้เรื่อง เข้าใจและเชื่อฟังเรา แต่นานๆ ทีจะมีร้องไห้ ให้เราตามใจ (ปกติจะไม่ตามใจ พยายามอธิบายให้เข้าใจจนกว่าน้องวชิจะบอกว่าโอเค เป็นการตกลงกันให้เข้าใจ หรือบางทีไม่ไหวก็เบี่ยงเบนความสนใจ)
ป้าหมอ : ให้ใช้สูตรเดิมคือเบี่ยงเบนความสนใจ
เชอรี่ : หม่ามี๊ผู้ใจแข็งใช้วิธีนี้ได้ผล ก็ใช้วิธีนี้ต่อไป

เชอรี่ : กลัวคนแปลกหน้ามาก ไม่ยอมให้คนแตะเลย พยาบาลถือว่าเป็นคนแปลกหน้า ตะกี๊น้องวชิโวยจนแทบวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนักไม่ได้ ^^"
ป้าหมอ : เป็นปกติ โตขึ้นก็จะดีขึ้นเอง

เชอรี่ : กินถั่วเยอะ มีโอกาสแพ้ไหม
ป้าหมอ : อะไรที่กินเยอะไปไม่ดีทั้งนั้น ให้กินได้วันละ 1 ช้อนโต๊ะ สลับๆ กันไป

เชอรี่ : กินน้ำมะพร้าวได้ไหม
ป้าหมอ : กินได้ แต่บ่อยก็ไม่ดี เพราะเค้าจะติดหวาน ไม่ยอมกินน้ำเปล่า

เชอรี่ : แล้วน้ำผลไม้กล่องที่เขียนว่า 100%
ป้าหมอ: กลายเป็นน้ำตาลแล้วทั้งนั้น ถ้าเลือกได้กินผลไม้สดดีกว่า

วันนี้ค่าฉีดวัคซีน 2,400 บาท

นัดครั้งต่อไป 21 ก.พ. 60 ตอนนั้นก็ 1 ขวบ 9 เดือนครึ่งครับ

ฉีดวัคซีนเสร็จหม่ามี๊พาไปเล่น Playgroup กินข้าว ช้อปปิ้ง

กิจกรรมเยอะไป น้องวชิหลับเลยดีกว่า Z z z ...

อ่านเพิ่มเติม
พาลูกอายุ 1 เดือน ฉีดวัคซีนที่ BNH พร้อมคำแนะนำจากคุณหมอสุธีรา
พาลูกอายุ 2 เดือน ฉีดวัคซีนที่ BNH พร้อมคำแนะนำจากคุณหมอสุธีรา
พาลูกอายุ 4 เดือน ฉีดวัคซีนที่ BNH พร้อมคำแนะนำจากคุณหมอสุธีรา
พาลูกอายุ 6 เดือน ฉีดวัคซีน, เช็คพัฒนาการ, วิธีดูแลฟัน, อาหารเสริมมื้อแรก

วีรกรรมของน้องวชิวัย 1 ขวบ 5 เดือน ซน แสบ ลิง

เชอรี่เป็นคุณแม่เต็มเวลา ส่วนน้องวชิก็เป็นคุณลูกเต็มเวลาเช่นกัน เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันวันละ 24 ชั่วโมง ตัวติดกัน แบบไม่ห่างกันเลย

น้องวชิเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง ไม่ชอบเล่นกับคนแปลกหน้า เดินได้ตอน 1 ขวบ 3 เดือน เดินได้แบบคล่องทันที  จนหลายคนแซวว่าพอคลานแล้วก็วิ่งเลย จริงค่ะ จับแทบไม่ทัน ทำให้มีเรื่องสนุกๆ ทุกวัน

วันนี้ที่ 2 พ.ย. 2559 เกิดหลายเรื่องเหลือเกินจนต้องขอบันทึกเรื่องลิงๆ ซะหน่อย

บุกรังแตน

เชอรี่พาน้องวชิมาเดินเล่นบริเวณคอนโด ปกติจะมีเพื่อนๆ มาเล่นด้วยกันเยอะมาก แต่วันนี้เราลงกันมาช้าเพราะรอแม่บ้านมาทำความสะอาดห้อง น้องวชิเลยวิ่งเล่นอยู่คนเดียว แน่นอนว่าวิ่งไปคนละทิศกับที่หม่ามี๊อยู่ตลอดเวลา เชอรี่ได้แต่วิ่งตามเพราะกลัวอันตราย

ก่อนลงไปซนทำตัวเป็นผู้ช่วยแม่บ้านครับ ทำตามเค้าทุกอย่างขยันมาก

น้องวชิจอมซนวิ่งเข้าไปในลานจอดรถจักรยาน ข้างในสุดมีจักรยานเด็กอยู่คันหนึ่งแต่ไม่ได้ขยับมาหลายเดือน อยู่ๆ ก็มีแตนหลายสิบตัวรุมน้องวชิเต็มไปหมดเลย น้องวชิร้องไห้เสียงดังมาก ส่วนเชอรี่ช็อคมาก รีบอุ้มน้องวชิออกมาทันที ในหัวคิดว่าแย่แล้วแน่ๆ จะพานั่ง Taxi ไปโรงพยาบาลใกล้ๆ ทันที เพราะหมอเก่งกว่าเชอรี่ปฐมพยาบาลแน่ๆ

จุดเกิดเหตุ น้องวชิวิ่งเข้าไปตรงจักรยานสีชมพู

แต่พอตรวจดูตามตัวกลับไม่มีรอยอะไรเลย แต่เพื่อความชัวร์เลย search google ว่าถ้าโดนแตนต่อย ต้องเอาเหล็กในออก ฟอกสบู่ ทายาสีฟัน เลยรีบกลับห้องอาบน้ำ ฟอกสบู่ ขัดๆๆๆ ทั้งตัว เพื่อความสบายใจ

ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ไม่เป็นอะไร ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยคุ้มครองน้องวชิด้วยค่ะ -/\-

ไม่กี่นาทีก่อนจะวิ่งใส่รังแตน T_T

เทน้ำยาทำฟองอากาศเต็มพื้นเลย

ปกติเวลาเชอรี่เข้าห้องน้ำ จะดูทุกครั้งว่าน้องวชิกำลังทำอะไรอยู่ เล่นของเล่นชิ้นไหน ใกล้จะเปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่นหรือยัง ถ้าดูท่าจะเล่นนานก็จะรีบเข้า เสร็จธุระจะรีบออกมาทันที ส่วนน้องวชิเวลาเห็นเชอรี่เข้าห้องน้ำปุ๊บ จะชอบมาเคาะประตู "หม่าม๊าๆๆๆๆ" พอเชอรี่ขานว่า "ค้าบบบ" จะหัวเราะชอบใจ เรียกใหม่

แต่วันนี้ไม่มาเคาะประตู ตอนแรกก็คิดว่าสงสัยจะเล่นของเล่นเพลิน แต่จากประสบการณ์แล้ว ไอ้เงียบๆ นี่น่ากลัวกว่าส่งเสียงอีก เลยรีบวิ่งออกมาดู และแล้วก็จริงอย่างที่คิด น้องวชิเทน้ำยาทำฟองอากาศชนิดเข้มข้นของ Gymboree เต็มพื้นเลย หม่ามี๊ได้แต่อึ้ง เอาไงดีหว่า ขวดนึงตั้งหลายร้อย กวาดเข้าขวดคืนก็ไม่ได้ เลยต้องตัดใจ เอาผ้าชุบน้ำมาซับออกให้หมด Y_Y

ภาพเหตุการณ์จำลอง แต่มีน้ำยาข้มข้นไหลเต็มพื้น

ป.ล. น้ำยานี้ยังเช็ดออกง่ายกว่าไข่ทั้งแผงที่น้องวชิเคยโยนลงมาจากตู้เย็น ตอนนั้นคือที่สุดแล้ว

คว่ำโกโก้ Starbucks ของหม่ามี๊เละเทะ

น้องวชิชอบกินน้ำ Starbucks มาก (น้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง) ชอบขอให้พาไป "บั๊ค" นั่งจิบน้ำ ถั่ว ผลไม้ ชมวิวไปชิวๆ ออกไปวิ่งเล่น Playground ใกล้ๆ บ้าง ช่วยให้น้องวชิอยู่นิ่งๆ ได้นาน ก็โอเคเหมือนกัน

นั่งกินเมล็ดทานตะวันเรียบร้อยดีมาก กินถึงแขนเลย

โชคดีมากที่มี Starbucks อยู่หน้าคอนโด แค่เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว บางทีน้องวชิถล่มของในห้องหนักๆ เชอรี่ก็พามานั่งเล่นที่นี่ จะได้ไม่เหนื่อย

วันนี้ก็เหมือนทุกวัน เชอรี่สั่งโกโก้เย็น 1 แก้ว น้ำเปล่าของน้องวชิ 1 แก้ว แล้วก็เอาเมล็ดทานตะวันใส่แก้วไว้ให้น้องวชิหยิบกินได้ น้องวชิก็เดินเล่นรอบโต๊ะ แป๊บๆ ก็กลับมาจิบน้ำ หยิบเมล็ดทานตะวันกิน แต่มาหยิบได้ไม่กี่ที มาคว้าแก้วโกโก้ของเชอรี่ที่เพิ่งกินได้ไม่เท่าไหร่ คว่ำลงพื้น เปื้อนรองเท้าทั้งแม่ลูก รีบเช็ดทำความสะอาด ขอโทษพนักงาน แล้วรีบกลับบ้าน

อีกแป๊บจะโชว์ผลงานแล้วน้า

Chupa Chups จาก 7-11

น้องวชิชอบกินมะพร้าวกับข้าวโพดต้ม 7-11 มาก แต่เก็บได้ไม่กี่วัน เราเลยไปกันบ่อยๆ น้องวชิชอบช้อปปิ้ง 7-11 มาก พอไปถึงจะวิ่งตรงไปที่มะพร้าวก่อนเลย "นัทๆๆๆ" (Coconut) หยิบลงตะกร้า แล้วก็ "Corn" หยิบลงตะกร้าหลายๆ อัน พอได้ของกินเรียบร้อยจะวิ่งไปมุมของเล่น แต่ระหว่างนั้นก็จะรื้อๆๆๆ ของ แม่ก็หิ้วตะกร้า ตามเก็บของขึ้นชั้น เป็นแบบนี้วนๆ ไปจนกว่าแม่จะรวบตัวน้องวชิได้สำเร็จ

เวลาจ่ายเงินเชอรี่จะจ่ายด้วยบัตรสมาร์ทเพิร์ส น้องวชิจะให้อุ้มขึ้นมานั่งแล้วช่วยแตะบัตรทุกครั้ง ชอบมากเวลามีเสียง "จี๊ดๆ" น้องวชิจะมีของติดไม้ติดมือมาที่แคชเชียร์ตลอด เชอรี่ต้องแอบส่งซิกกับพนักงานว่าไม่เอาค่ะ ฝากซ่อนหน่อย

ด้วยความที่ซื้อของหลายอย่าง ต้องรีบใส่ตู้เย็นทันที พอหยิบใส่หมดแล้ว พบว่าในถุงมี Chupa Chups 1 อยู่ 1 อัน รีบตรวจบิลทันที ไม่ได้จ่ายเงินด้วย ง๊าาา

รีบเอาไปคืนเลย

พอตอนเย็นก็ไปซื้อของมาทำกับข้าวให้น้องวชิ Max Valu นี้ใหญ่กว่า 7-11 หลายเท่าเลย แถมของโปรดก็เยอะกว่าด้วย มีทั้ง grape, apple, papaya, banana, baby corn, fish, egg ฯลฯ อยากกินซะทุกอย่าง จะเอานิ้วเจาะกิน ต้องคอยวิ่งตาม ของก็ต้องซื้อ

วันนี้ลิงน้อยหมดพลัง น็อคไปตั้งแต่ก่อน 18.30 น. น้ำยังไม่ได้อาบ ข้าวยังไม่ได้กิน พรุ่งนี้ตื่นมาสู้กันใหม่นะครับลิงน้อย

อ่านเพิ่ม

เรื่องสนุกๆ ระหว่างวันของหม่ามี๊เชอรี่กับน้องวชิ 13 เดือน

พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ง่ายกว่าที่คิด ตอนให้ลูกกินอะไรดี?? ​: อาหาร น้ำ ผลไม้

เชอรี่เชื่อว่าคุณแม่หลายคนที่จะพาลูกวัยที่กินอาหารเสริมแล้วเที่ยวต่างประเทศ มีคำถามมากมาย หนึ่งในนั้นคือเรื่องของอาหาร ว่าจะให้กินอะไรดี ปกติกินแต่ฝีมือแม่ ลูกจะกินอาหารที่นั่นได้ไหม กินอาหารสำเร็จรูปทุกวันจะเบื่อหรือเปล่า เชอรี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เลยอยากจะแชร์ข้อมูลกันค่ะ

ให้ลูกกินอะไรดี ??

1. อาหารสำเร็จรูป

เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะบางทีเด็กกับผู้ใหญ่ก็หิวไม่พร้อมกัน เด็กต้องกินอาหารตรงเวลา พกอาหารสำเร็จรูปกับผลไม้ติดกระเป๋าไว้ดีที่สุดค่ะ แนะนำว่าให้ซื้อจากบ้านเราไปจะดีกว่า

เชอรี่เคยถามคุณหมอว่าถ้าไปเที่ยวต่างประเทศ 1 อาทิตย์จะให้ลูกกินอาหารอาหารอะไรดี คุณหมอตอบเลยค่ะ ว่าอาหารสำเร็จรูป กลับมาบ้านก็ให้กินฝีมือแม่เหมือนเดิมได้

ราคาแพงกว่าบ้านเรา แถมไม่มีเนื้อสัตว์ด้วย

น้องวชิหิวปุ๊บ ป่าปี๊พร้อมเสมอ กินซะเยอะเลยหมูน้อย

น้องวชิอายุ 1 ขวบ 3 เดือน เป็นเด็กกินเก่ง อาหารเสริม 1 ถุงต่อมื้อไม่พอค่ะ เลยต้องมีตัวเลือกต่อไป

2. ร้านอาหาร

มีร้านอาหารหลายร้านที่เด็กสามารถกินได้ ถ้าลูกสามารถพอเคี้ยวได้หรือกินอาหารได้เหมือนผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะอาหารที่นี่รสชาติจืดๆ เยอะเลย อย่างร้าน Crystal Jade Kitchen เป็นร้านติ่มซำขอบอกว่าอร่อยมาก มีโจ๊กด้วย เมนูให้เลือกเยอะ อร่อยพุงกางทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีหลายสาขาตามห้างค่ะ

แต่การจะให้กินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ต้องระวังหลายอย่าง ทั้งเรื่องความสะอาด (อันนี้ก็เลือกร้านตามห้างก็พอไหว) ผงชูรส (อันนี้ไม่รู้เลย) และที่สำคัญคือเรื่องรสชาติ ต้องไม่จัดจนเกินไป สงสารไตลูกจะทำงานหนัก และถ้ามันอร่อยไปก็จะติดใจไม่ยอมกลับมากินฝีมือแม่อีก

ร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีเก้าอี้เด็กไว้ให้ และยังมีถ้วย จาน ช้อน แก้วน้ำให้ครบเลย เรียกได้ว่ามีแค่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวเข้าไปก็หม่ำได้เลยค่ะ

มื้อนี้น้องวชิกินไม่หยุดเลยค้าบ > <"

3. ผลไม้

เชอรี่เตรียมผลไม้จากบ้านเราไปหลายอย่างเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องเดินหาซื้อให้ลำบาก เพราะน้องวชิกินผลไม้วันละ 1-2 มื้อ หั่นใส่กระปุกเล็กๆ เวลาออกไปเที่ยวก็ใส่กระเป๋าเก็บความเย็น ถึงมื้อผลไม้ก็ป้อนได้ทันที

นอกจากอาหารสำเร็จรูป ผลไม้ ยังเตรียมถั่วหลายชนิดด้วย

องุ่น สตรอว์เบอร์รี บลูเบอรี ในซุปเปอร์มาเก็ต สด อร่อย ไม่ควรพลาด ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย

ซุปเปอร์มาเก็ตก็หาง่าย มีตามห้างเลย

ถ้าเน้นสะดวก หาง่ายก็ผลไม้ที่ Starbucks ค่ะ แต่ราคาก็สูงนิดนึง

น้ำเปล่า

เชอรี่ใช้วิธีเตรียมน้ำขวดขนาดเล็ก (330 มล.) กับหลอดให้ครบตามจำนวนวันที่ไปเที่ยวเลย เพราะจะได้ไม่ต้องคอยหาซื้อให้ยุ่งยาก ไม่ต้องล้าง กินหมดทิ้งได้เลย แถมยังขนาดพอดีไม่หนักกระเป๋าจนเกินไปด้วย

แค่นี้ลูกเราก็ได้กินอาหาร ผลไม้ น้ำ ได้เพียงพอเหมือนอย่างที่เราเคยให้กินตอนอยู่บ้านแล้วค่ะ ขอให้เป็นทริปที่มีความสุขกันทั้งครอบครัวนะคะ

อ่านเพิ่ม

• ประสบการณ์พาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก การเตรียมตัวและคำแนะนำ
• พาลูกทำพาสปอร์ตครั้งแรก เอกสาร ขั้นตอน สถานที่ และค่าใช้จ่าย
• พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ง่ายกว่าที่คิด ที่เที่ยว ช้อปปิ้ง คำแนะนำ

พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ง่ายกว่าที่คิด ที่เที่ยว ช้อปปิ้ง คำแนะนำ

หลังจากที่เชอรี่พาน้องวชิซ้อมนั่งเครื่องบินไปขอนแก่นเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาเอาจริงที่จะพาน้องวชิเปิดโลกกว่ากันแล้ว ประเทศแรกที่พาไปก็ไม่ใกล้จากบ้านเรา คือประเทศสิงคโปร์นั่นเอง

สิงคโปร์

ที่เลือกสิงคโปร์เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทยมาก เดินทางสะดวก ขึ้นเครื่องบินแค่ประมาณ 2.30 ชั่วโมง แถมยังมีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินกันบ่อยๆ เลยเป็นประเทศหนึ่งที่คนไทยชอบไปเที่ยวกัน

ทริปนี้เชอรี่เดินทางโดยสายการบิน Singapore Airlines ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการว่าดีเลิศอยู่แล้ว แถมช่วงนี้มีโปรโมชั่นพอดี ผู้ใหญ่ประมาณ 6,300 บาท ส่วนตั๋วของน้องวชิประมาณ 2,600 บาท มีอาหารให้ มีของเล่นให้หลายชิ้นเลย ถูกใจน้องวชิสุดๆ

ขาไปได้ Peachy 2 ถุง ขากลับได้ Heinz 3 ขวด พร้อมผ้ากันเปื้อน และของเล่นอีกเพียบ

เชอรี่เลือกที่นั่งแถวหน้าสุดเพราะจะได้มีบริเวณข้างหน้าไว้ให้น้องวชิลงไปนั่งเล่น หรือเดินเล่นได้ จะได้ไม่รู้สึกเบื่อ 

สถานที่เที่ยว

• Merlion Park ใครมาเที่ยวสิงคโปร์แล้วไม่มา Merlion ก็เหมือนมาไม่ถึง ที่นี่เค้าทำทางเดินรอบอ่าวดีมาก สะดวก เหมาะสำหรับใครที่จะพาลูกเล็กมาเที่ยวเหมือนกัน น้องวชินั่งรถเข็นชมวิวอ่าวเพลินเลย เพราะมีเรือ Duck ทัวร์ แล่นอยู่ ให้ชม แทบไม่ละสายตาเลย

เรามาถึง 8 โมงเช้า (สังเกตหน้าแม่ลูก ยังไม่ตื่นทั้งคู่) คนเยอะมากเลย ทัวร์จีน คนไทย แน่นบริเวณถ่ายรูปไปหมด โชคดีที่อากาศยังเย็นสบายเลยได้ถ่ายรูป ชมวิวไปชิวๆ ไม่ต้องรีบ

• Marina Bays Sands ตั้งอยู่ที่อ่าวมาริน่า อยู่ตรงข้ามกับ Merlion เลย เป็นทั้งห้างหรู โรงแรม โรงหนัง คาสิโน มีคลองเวนิส (จำลอง) ไว้เดินถ่ายรูป ช้อปปิ้งชิวๆ

น้องวชิดู Boat เพลินเลยครับ

• Gardens by the Bay ที่นี่มีสวนดอกไม้เยอะมาก น้องวชิเข้าชมทั้ง 2 โดม Flower Dome มีดอกไม้หายากจากหลายประเทศ และ Cloud Forest มีน้ำพุยักษ์ ขึ้นลิฟท์ไปชมดอกไม้บนชั้น 7 แถมยังได้ชมวิวเรือจากอ่าว Marina Bay ด้วย

ใน Cloud Forest มีน้ำพุไหลลงมาจากชั้น 7 ข้างนอกอาาศร้อน พอเข้ามาหนาวทันที

วิ่งสนุกใน Flower Dome ครับ ดอกไม้สวยๆ เยอะมาก

ป่าปี๊หม่ามี๊พาน้องวชิเดินทางเชื่อมใต้ดินจาก Marina Bay Sans ไป Gardens by the Bay

• สวนสัตว์ ขนาดไม่ใหญ่ แต่ถ้าเดินก็เหนื่อยเหมือนกัน เราเลยขึ้นรถรางกัน จะได้ประหยัดเวลาและไม่เหนื่อยมากด้วย น้องวชิเห็นรถรางรูปสัตว์ต่างๆ วิ่งผ่าน จะร้อง Car แถมวิ่งตามอยากขึ้นทุกทีเลย พอได้ขึ้นก็ดีใจ ทำท่าขับรถเองอีกตะหาก 555

ที่นี่มีสัตว์หลายชนิด แต่ที่น่าตื่นเต้นคือหมีขั้วโลกสีขาวตัวใหญ่ น้องวชิจำได้ว่ามันคือ Polar Bear และด้วยความที่เคยเที่ยวสวนสัตว์หลายครั้งแล้ว น้องวชิเลยจำเพื่อนตัวอื่นๆ และเรียกชื่อได้ทันทีที่เจออย่าง Zebra Giraffe Monkey Fish Penguin horse ฯลฯ บางอย่างหม่ามี๊ก็พูดก่อน น้องวชิก็พูดตามได้ทันที Flamingo Elephant แต่ชัดไม่ชัดอีกเรื่องนะฮะ 555

หมีขั้วโลกสีขาวตัวใหญ่

เพนกวิ้นเพื่อนรัก

ค่าเข้าสวนสัตว์ผู้ใหญ่คนละ 33 SGD รถราง 5 SGD นั่งได้ไม่จำกัด

มีรถลากให้เช่าสำหรับเด็กโตด้วยค่ะ เผื่อเดินไม่ไหว

แถมยังมีสวนน้ำให้เล่นด้วย น้องวชิไม่รอช้า รีบคว้ามือป่าปี๊ให้พาลุยทันที ยิ้มแฉ่ง หัวเราะลั่น มีความสุขสุดๆ เลย

• ช้อปปิ้งถนน Orchard Road ถนน Orchard เป็นแหล่งช้อปปิ้งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด ถึงเสื้อผ้า ของใช้จะแพงกว่าบ้านเรา ก็ต้องมาเดินเล่นทุกครั้ง มาสูดบรรยากาศห้างสักหน่อยให้สดชื่น

• ทะเล ทรายที่นี่ไม่ละเอียดเท่าบ้านเรา ชายหาดก็ลึกมีติดป้ายห้ามว่ายน้ำด้วย แต่ไม่ใช่ปัญหาครับเพราะน้องวชิตักทรายเล่นก็มีความสุขมากแล้วครับ

ชายหาดที่นี่ทำดีมาก มีร้านอาหารของหลายเชื้อชาติ ทั้งมาเลย์เซีย สิงคโปร์ และ McDonald's ขนาดใหญ่มาก เปิด 24 ชั่วโมงด้วย มี Playground ขนาดใหญ่ มีลานไว้ถีบจักรยาน มีหลายครอบครัวมากนั่งพักผ่อนกันที่นี่

น้องวชิชอบชายหาดที่นี่มาก ใช้เวลาอยู่นี่ได้หลายชั่วโมงเลย เพราะมีเครื่องบินขึ้นให้ดูเยอะมากๆ มีเรือขนสินค้าลำใหญ่ๆ มีรถตักดินคันใหญ่ด้วย ทั้งชี้ ทั้งพูด ไม่หยุดเลย แถมยังมีเต่าตัวน้อยวิ่งมาทักทายอีก พอน้องวชิเห็นเรียกทันทีเลย "Turtle"

สิ่งอำนวยความสะดวก

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ไปที่ไหนก็เดินทางสะดวก จะขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ก็ไม่ต้องห่วง ถนน ทางเดินก็ทำดี รถไฟฟ้าเชื่อมกับห้าง สถานที่สำคัญ บ้านเมืองเค้าเจริญจริงๆ ไปที่ไหนก็สะดวกสบาย ทำให้เที่ยวไม่เหนื่อยเลย

• ห้องน้ำ นอกจากจะแยกหญิง ชาย คนพิการ แล้วยังมีห้องสำหรับเบบี๋ด้วย ตามห้างหรือสถานที่สำคัญมีหมดค่ะ

• ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม มีอ่างน้ำ ถาดเปลี่ยนผ้าอ้อม กระดาษชำระ น้ำร้อนไว้ชงนมพร้อมเลย สะดวกมากจริงๆ

• ห้องให้นม สำหรับคุณแม่ที่ยังให้น้องกินนมแม่อยู่ ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ มีห้อง ปลั๊กไฟพร้อม

ช้อปปิ้ง

• ของเล่น ร้านของเล่นที่นี่มีเยอะ ร้านใหญ่ ของเล่นหลากหลายน่าเล่นกว่าบ้านเรามาก ส่วนราคาก็ไม่ถูกเลย เลยเลือกซื้อชิ้นที่บ้านเราไม่มีขายมาให้น้องวชิได้เล่นนิดๆ หน่อยๆ พอ เพราะน้องวชิมีของเล่นเยอะมากแล้ว

ของเล่นน่าเล่นทั้งนั้นเลยค่ะ

• หนังสือ ส่วนร้านหนังสืออยู่ตามห้าง หนังสือภาษาอังกฤษของเด็กมีให้เลือกซื้อเยอะมาก มีหลากหลาย ราคาถูกกว่าบ้านเรานิดหน่อย ร้านหนังสือที่แนะนำชื่อร้าน Popular มีหลายสาขาตามห้าง เดินทางไม่ยากค่ะ
• เสื้อผ้า ถ้าเดินตามห้างส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์เนม ราคาก็แพงมาก ถ้าไม่เบรนเนมก็ไม่สวย ซื้อบ้านเราดีที่สุดค่ะ
• ของคุณแม่ แนะนำว่าไม่ควรพลาด Changi Citi Point Outlet ที่นี่มีหลายแบนด์เลย เชอรี่เพิ่งซื้อรองเท้า Skechers คู่นี้ที่ไทย 2,590 บาท มาเจอรองเท้าคู่นี้ 59 SGD แทบอยากจะซื้อเฉลี่ยเลยทีเดียว Y_Y

ถึงจะเป็นการพาน้องวชิเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ก็ไม่รู้สึกว่าลำบากเลย สะดวกทั้งการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารการกิน

เจอกันรอบหน้านะจ๊ะ "สิงคโปร์"

อ่านเพิ่ม

• ประสบการณ์พาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก การเตรียมตัวและคำแนะนำ
• พาลูกทำพาสปอร์ตครั้งแรก เอกสาร ขั้นตอน สถานที่ และค่าใช้จ่าย
• พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ง่ายกว่าที่คิด ตอนให้ลูกกินอะไรดี