เชอรี่เป็นคนหนึ่งที่ทำงานมานาน จ่ายประกันสังคมทุกเดือนอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ค่อยได้ใช้สิทธิสักเท่าไร พอรู้ว่าท้องก็รีบศึกษาข้อมูลไว้เลย งานนี้ไม่พลาด
หลังจากคลอดน้องวชิได้ 2 อาทิตย์ หลายอย่างก็เริ่มลงตัว เชอรี่เลยเตรียมเอกสารให้เอ็มไปยื่นที่ประกันสังคมใกล้บ้านโดยมอบอำนาจให้เอ็มไปแทน
เงื่อนไข
จะต้องจ่ายเงินสมทบครบ 7 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอด คำว่า 7 เดือน ภายใน 15 เดือน คือ เดือนที่คลอดไม่นับสิทธิ การนับจะนับย้อนหลังไป 15 เดือน (1 ปี 3 เดือน) มีเงินสมทบครบ 7 เดือนหมายเหตุ : กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรรวมกันไม่เกิน 4 ครั้ง โดยบุตรที่นำมาใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรแล้วไม่สามารถนำมาขอรับค่าคลอดบุตรได้อีก
จะใช้สิทธิใครดี?
ถ้าตรวจสอบเงื่อนไขแล้ว สามารถใช้สิทธิทั้ง 2 คน แนะนำว่าให้ภรรยาใช้สิทธิก่อนเพราะจะได้เงินชดเชยกรณีหยุดงานด้วย
สิทธิที่จะได้รับ
ขอแยกเป็น 3 ส่วนนะคะ1. กรณีคลอดบุตร ได้คนละ 13,000 บาท ต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง
2. กรณีหยุดงาน สามารถเบิกได้เฉพาะภรรยาเท่านั้นนะคะ แนะนำว่าถ้าสามารถเบิกได้ทั้ง 2 คน ภรรยาควรใช้สิทธิให้เต็มทั้ง 2 สิทธิก่อน
เงินที่ได้รับจะคิดจากการเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน คิดเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท คือ 7,500 x 3 = 22,500 บาท
เช็คกรณีคลอดบุตรและกรณีหยุดงาน 35,500 บาท ได้วันที่ยื่นเลย
3. กรณีสงเคราะห์บุตร เงินนี้จะโอนเข้าบัญชีเราทุกเดือนค่ะ เป็นรายเดือน เดือนละ 400 บาท จนลูกอายุ 6 ขวบ
เอกสารที่ใช้
- กรณีเงินช่วยเหลือค่าคลอดและกรณีหยุดงาน
1. แบบ สปส. 2-01 ที่กรอกรายละเอียดแล้วพร้อมลงลายมือชื่อ (ให้เลือกกรณีคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์กรณีหยุดงาน)ดาวน์โหลด -> http://www.sso.go.th/wpr/uploads/uploadImages/file/2sps201.pdf
2. สำเนาสูติบัตรของลูกพร้อมตัวจริง (กรณีลูกแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
3. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิงใช้สิทธิถ้าไม่มีไม่ใช้ กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิถ้าไม่มีให้แนบหนังสือรับรองกรณีไม่มีทะเบียนสมรส)
4. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
กรณีไม่ได้ไปยื่นด้วยตัวเองจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจเพิ่ม 1 ชุด พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง อย่าลืมเอาบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบอำนาจไปด้วยนะคะ
- กรณีสงเคราะห์บุตร
1. แบบ สปส. 2-01 ที่กรอกรายละเอียดแล้วพร้อมลงลายมือชื่อ (ให้เลือกกรณีเงินสงเคราะห์บุตร)
ดาวน์โหลด -> http://www.sso.go.th/wpr/uploads/uploadImages/file/2sps201.pdf
2. สำเนาสูติบัตรของลูกพร้อมตัวจริง (กรณีลูกแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
3. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอมี 9 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารธนชาต , ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
4. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา

2. สำเนาสูติบัตรของลูกพร้อมตัวจริง (กรณีลูกแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
3. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอมี 9 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารธนชาต , ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
4. บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา
** ต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกชุด **
ยื่นเอกสารได้ที่
สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ 1-12 แห่ง/จังหวัด/สาขา ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
จากที่ได้ไปยื่นเอกสาร พบว่าทุกอย่างรวดเร็วดี มีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของเราก่อนที่จะให้เข้าคิว ถ้าไม่ครบก็จะแจ้งว่าต้องใช้อะไรเพิ่มบ้าง
เข้าคิวไม่นาน พอถึงคิวเราก็แค่ตรวจว่าเอกสารครบ รออีก 15 นาทีก็ได้เช็คเลยค่ะ รวดเร็วดีมากๆ และก็ได้เงินเลยไม่ต้องรอ เงิน 35,500 บาทจะว่าไปก็เยอะนะคะ ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกได้ดีเลยทีเดียว
ใครทำประกันสังคม อย่าลืมใช้สิทธิกันด้วยนะคะ ^__^
จากที่ได้ไปยื่นเอกสาร พบว่าทุกอย่างรวดเร็วดี มีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของเราก่อนที่จะให้เข้าคิว ถ้าไม่ครบก็จะแจ้งว่าต้องใช้อะไรเพิ่มบ้าง
เข้าคิวไม่นาน พอถึงคิวเราก็แค่ตรวจว่าเอกสารครบ รออีก 15 นาทีก็ได้เช็คเลยค่ะ รวดเร็วดีมากๆ และก็ได้เงินเลยไม่ต้องรอ เงิน 35,500 บาทจะว่าไปก็เยอะนะคะ ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกได้ดีเลยทีเดียว
ใครทำประกันสังคม อย่าลืมใช้สิทธิกันด้วยนะคะ ^__^