บล็อกนี้เป็นบันทึกช่วงเวลาหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตเชอรี่มากช่วงหนึ่ง เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่จากชีวิตคู่สู่คำว่าครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ
อย่างที่รู้ว่าเชอรี่ตั้งท้องครบ 9 เดือน และวันนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องคลอด "น้องวชิ" ลูกชายสุดที่รักของเชอรี่กับเอ็ม เลยขอบันทึกช่วงเวลาดีๆ ตลอด 4 วัน 4 คืนที่โรงพยาบาล BNH ไว้ค่ะ
วันจันทร์ที่ 4 พ.ค. 2558
22.10 น. มาถึง BNH ที่แผนกศัลยกรรม พยาบาลวัดความดันปกติ
22.20 น. พยาบาลมาคุยเรื่องรายละเอียดค่าใช้จ่าย
22.40 น. บุรุษพยาบาลเข็นขึ้นมาชั่งน้ำหนัก วันนี้หนัก 66.30 กก. อยากให้หมอเยื้อนเห็นน้ำหนักตอนนี้จัง (คือเพิ่งกิน MK มา)
23.45 น. พยาบาลพาเดินดูห้อง วันนี้คนคลอดเยอะ เหลือห้อง 2501 กับ 2520 ที่เค้าเลือกไว้ให้เราก่อนหน้านี้ สรุปก็เอา 2520 เพราะไกลแต่เงียบสงบกว่า
23.50 น. เปลี่ยนเป็นชุดพร้อมผ่าตัดวันพรุ่งนี้
23:55 น. พยาบาลมาวัดหัวใจลูก เต้น 140 ครั้ง/นาที ทำความสะอาดช่วงหน้าท้อง (โกนขนตรงน้องเพราะพรุ่งนี้จะต้องผ่า Bikini Line) หลังจากเที่ยงคืนต้องงดน้ำ อาหาร พยาบาลจะมาปลุกก่อน 6 โมง
วันอังคารที่ 5 พ.ค. 2558
00.30 น. เชอรี่โพสบล็อก "ความรู้สึกของคนที่กำลังจะเป็นแม่" ส่วนเอ็มโพสบล็อก "
ความรู้สึกของคนที่กำลังจะเป็นพ่อ" เขียนกันสดๆ ณ ตอนนั้น จากนั้นเรา 2 คนก็ปิดโทรศัพท์เพื่อตัดกังวลเรื่องอื่นๆไป และก็นอนไม่หลับเพราะนี่คือการมานอนโรงพยาบาลครั้งแรกของเรา ในหัวเชอรี่คิดไปถึงวันพรุ่งนี้จนร้องไห้ทั้งคืน โชคดีที่มีเอ็มคอยปลอบและอยู่ข้างๆ ตลอด
เรานอนเบียดกันบนโซฟาแคบๆนี้เพราะเชอรี่ไม่กล้านอนคนเดียว
6.00 น. พยาบาลมาปลุกเพื่อสวนก้นให้อึ นี่เป็นการสวนครั้งแรก พยาบาลบอกว่าให้อั้นจนทนไม่ไหวแล้วค่อยไปเข้าห้องน้ำ แต่สวนปุ๊บไม่เกิน 1 นาที ก็ทนไม่ได้แล้วค่าาา
7.00 น. วัดความดัน และเจาะน้ำเกลือ หลังจากนั้นมีพยาบาลมาซักประวัติ ผ่าตัด แพ้ยา ใส่คอนแทกเลนส์ ฯลฯ เชอรี่ปกติทุกอย่าง
6.00 น. พยาบาลมาปลุกเพื่อสวนก้นให้อึ นี่เป็นการสวนครั้งแรก พยาบาลบอกว่าให้อั้นจนทนไม่ไหวแล้วค่อยไปเข้าห้องน้ำ แต่สวนปุ๊บไม่เกิน 1 นาที ก็ทนไม่ได้แล้วค่าาา
7.00 น. วัดความดัน และเจาะน้ำเกลือ หลังจากนั้นมีพยาบาลมาซักประวัติ ผ่าตัด แพ้ยา ใส่คอนแทกเลนส์ ฯลฯ เชอรี่ปกติทุกอย่าง
7.30 น. พยาบาลเอาเทปมาพันแหวนให้ทีละชั้น ดีใจมาก ไม่ต้องตัดแหวนแล้ว
ตั้งแต่เมื่อคืนเชอรี่แจ้งพยาบาลไปประมาณ 10 คนได้ แจ้งทุกคนไม่ว่าจะเกี่ยวไม่เกี่ยว ว่าถอดแหวนขอแต่งงานไม่ออก ซึ่งเชอรี่แจ้งกับแผนกสูติฯ ตอนบ่าย กับศัลยกรรมตอน Admit เค้าแจ้งว่าจะตัดแหวน!! แทบบ้าเลย โทรไปร้านทำแหวนเรื่องต่อคืนเรียบร้อยแล้วด้วย 55
8.40 น. ไปห้องผ่าตัดที่ชั้น 3 เอ็มแยกไปอีกห้องเพื่อแต่งตัว ส่วนเชอรี่เข้าไปทางห้องผ่าตัด พยาบาลซักประวัติและให้เซ็นเอกสารยินยอมการบล็อคหลัง
8.50 น. บล็อคหลัง ท่อนล่างเริ่มชา ขยับไม่ได้ ไม่รู้สึกอะไรเลย เอาฉากสีฟ้าๆ มากั้นเพื่อไม่ให้เชอรี่เห็นระหว่างผ่าตัด หลังจากบล็อคหลังแป๊บนึง คุณหมอถามว่าชายัง เลยบอกว่าเริ่มชา หมอไม่คงชาเฉยๆ แล้วล่ะเพราะใส่ท่อปัสสาวะไปแล้ว ^^"
เอ็มก็ยังไม่มา บรรยากาศก็น่ากลัว เชอรี่ที่ขยับท่อนล่างไม่ได้ ได้แต่บอกหมอและผู้ช่วยทุกคนว่ากลัวมากๆ เลยค่ะ กลัวเค้าจะผ่า วินาทีนั้นก็อยากเปลี่ยนใจไม่ผ่า อยากต่อเวลาขอทำใจก่อน ได้ยินหมอขอเครื่องมืออะไรสักอย่าง ก็โวยวาย สรุปคือเค้าจะสคลับเพื่อทำความสำอาดหน้าท้องส่วนที่จะผ่า -"-
9.00 น. ผ่าคลอด เอ็มตามเข้ามาในห้องและอยู่ข้างๆ ตรงหัวเชอรี่ตลอด เอ็มรู้ว่าเชอรี่กลัวมากๆ พยายามชวนคุยตลอด ตอนนั้นในหัวคิดว่าไม่ไหวแล้ว กลัวมีดลงแล้วจะเจ็บ เลือดจะไหลออกไม่หยุด ขาก็ขยับไม่ได้ แขน 2 ข้างก็ถูกกางแล้วมัดไว้ อึดอัดมากที่สุดในชีวิต รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกฆ่าแล้วทำอะไรไม่ได้ กลัวจนสั่น ตาแดง น้ำตาก็จะไหล เลยบอกเอ็มว่า "มีคนเดียวพอแล้วนะคะ" แล้วก็ได้ยินเสียงทารกร้อง
คือเอ็มบอกทีหลังว่าตอนเข้ามาถึงหมอผ่าเรียบร้อยแล้ว เอ็มเป็นห่วงกลัวเชอรี่จะเป็นอะไร เห็นเชอรี่กลัวมากๆ ได้แต่พูดปลอบแบบเสียงสั่นๆ
9.09 น. น้องวชิลืมตาดูโลก โชว์พลังเสียงอันยิ่งใหญ่ เสียงทั้งคุณหมอและพยาบาลในห้องพูดเสียงเดียวกันว่า "โห ตัวใหญ่มากเลย" (อาจจะมองว่าคุณแม่ตัวเล็ก) จากนั้นคุณหมอสุธีรารับตัวน้องวชิไปทำความสะอาด แล้วบอกว่า "ทารกสมบูรณ์ แข็งแรงนะคะ"
จากนั้นผู้ช่วยคุณหมอมาขอกล้องจากเอ็ม เพื่อถ่ายภาพครอบครัวครั้งแรกของเรา แต่เชอรี่มึนยา ตาพล่ามาก มองน้องวชิไม่ชัดเลย
คุณหมออุ้มน้องวชิใส่ตู้อบแล้วเข็นออกไป แล้วก็มึเสียงบอกว่า "คุณพ่อตามน้องออกไปเลยค่ะ" เอ็มออกจากห้องไปทั้งๆ ที่ยังห่วงเชอรี่มาก แล้วคุณหมอก็เอาหน้ากากออกซิเจนมาสวมให้ จากนั้นเชอรี่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
11.00 น. พยาบาลอธิบายอาการหลังยามอร์ฟีนหมดฤทธิ์ ว่าอาจจะรู้สึกคันตามตัว และเจ็บแผลผ่า เจ็บหน่วงตรงช่องคลอด ถ้าทนไม่ไหวให้ขอยาแก้ปวดเพิ่มได้ จากนั้นก็วัดความดัน นวดตรงบริเวณผ่าเผื่อช่วยให้มดลูกเข้าที่ได้เร็วขึ้นแต่เชอรี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะอาการชาจากบล็อคหลัง พร้อมกับใส่ผ้าอนามัยให้ เป็นผ้าอนามัยแบบห่วง พร้อมแผ่นปูรองกันเปื้อน
11.20 น. พยาบาลและบุรุษพยาบาลมาเชอรี่ที่ยังขยับท่อนล่างไม่ได้มาส่งที่ห้อง
13.00 น. พยาบาลมาวัดไข้, วัดความดัน พาน้องวชิมากินนม และเปลี่ยนผ้าอนามัย โดยมาเป็นสเต็ปอย่างนี้ทุกครั้งจนวันออก
เป็นการเจอกันกับน้องวชิชัดๆ ครั้งแรกเพราะตอนอยู่ห้องผ่าตัดเชอรี่ตาพล่าแทบลืมตาไม่ขึ้นแล้ว ตื่นเต้น เห็นเด็กจมูกโตๆ หน้าตาน่ารัก อยากกอด อยากหอมจังเลย ยิ่งพยาบาลมาส่งตรงอก ให้นมครั้งแรกนี่น้ำตาแทบไหล
14.00 น. มีเสียงปิ๊บๆ เตือน ตกใจมาก เอ็มรีบมาดูปรากฏว่าน้ำเกลือหมด รีบกดให้พยาบาลมาเปลี่ยนขวดที่ 2 (จะต้องให้ครบ 4 ขวดถึงจะถอดสายได้)

15.00 น. คุณหมอเยื้อนมาที่ห้องตรวจดูอาการบอกว่าปกติไม่มีปัญหาอะไร คุณหมอจะไม่อยู่ 3 วันแต่จะฝากเรื่องไว้ให้คุณหมอท่านอื่นช่วยตาม
17.20 น. พยาบาลมาวัดไข้, วัดความดัน พาน้องวชิมาดูดนม และเปลี่ยนผ้าอนามัย

15.00 น. คุณหมอเยื้อนมาที่ห้องตรวจดูอาการบอกว่าปกติไม่มีปัญหาอะไร คุณหมอจะไม่อยู่ 3 วันแต่จะฝากเรื่องไว้ให้คุณหมอท่านอื่นช่วยตาม
17.20 น. พยาบาลมาวัดไข้, วัดความดัน พาน้องวชิมาดูดนม และเปลี่ยนผ้าอนามัย
21.10 น. พยาบาลมาวัดไข้ พาน้องวชิมาดูดนม และเปลี่ยนผ้าอนามัย
เป็นช่วงเวลาที่แสนเหนื่อย แสนกลัวมากที่สุดในชีวิต แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เชอรี่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตเช่นกันค่ะ
Tweet