Thursday, April 30, 2015

ประสบการณ์ฝากครรภ์ครั้งที่ 8 ครั้งสุดท้ายก่อนคลอดกับหมอเยื้อนที่ BNH (36 สัปดาห์)



คุณหมอเยื้อนแจ้งเราไว้ตั้งแต่ครั้งที่แล้วว่า ครั้งหน้าจะนัดกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนคลอด วันนี้เลยเป็นวันสุดท้ายที่เชอรี่จะมาฝากท้องที่นวบุตร คำถามที่อยากจะถามคุณหมอไม่มีอะไรไปมากกว่า "การยืนยันเรื่องการผ่าคลอด"

วันนี้วันที่ 24 เม.ย. 2558 เรามาถึงนวบุตร 15.50 น. ได้คิวที่ 13 เร็วกว่าทุกครั้งที่เคยมาเลยเพราะเชอรี่ไม่ได้ไปทำงานแล้ว ถึงจะมาเร็วแต่เราก็รอคิวนานกว่าครั้งก่อนๆ คงเพราะคนซาวด์เยอะเลยเรียกคิวช้ารอคิวชั่วโมงกว่า

แล้วก็ถึงคิวเรา

หมอเยื้อน : ว่าไง เป็นยังไงบ้าง
เชอรี่ : สบายดีค่ะ กินได้เยอะ นอนได้ปกติ
หมอเยื้อน : ผลตรวจปัสสาวะปกติ แต่น้ำหนักขึ้นน้อยไปนะ 2 ขีด
เชอรี่ : ค่ะ ช่วงนี้อยู่บ้านเลยไม่ได้กินเยอะมากๆ เหมือนตอนไปทำงาน แล้วท้องไม่ผูกแล้วด้วยค่ะ
หมอเยื้อน : แต่อย่างน้อยควรขึ้นสัปดาห์ละ 5 ขีด
เอ็ม : ต้องให้กินเยอะขนาดไหนครับ จะได้ให้กินถูก
หมอเยื้อน : ก็กินให้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะกินได้เลย
เอ็ม : ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง (พร้อมลูบหัวเมียให้เชื่อฟัง)
เชอรี่ : -"-
หมอเยื้อน : ลูกดิ้นดีไหม
เชอรี่ : ดิ้นค่ะ แรงมากด้วย
หมอเยื้อน : ตอนนี้ก็จะ 37 สัปดาห์แล้วนะครับ กำหนดคลอดวันที่ 5 พฤษภา ก็ 38 สัปดาห์พอดี ไม่มีปัญหาอะไร วันที่ 4 หลัง 2 ทุ่มก็ไปติดต่อที่โรงพยาบาล แล้ววันที่ 5 ก็ผ่า 9 โมง ทางโรงพยาบาลโทรไปแจ้งรายละเอียดยังครับ
เชอรี่ : โทรมาแล้วค่ะ วันก่อนถูกมีดบาดเลยเข้าไปทำแผลแล้วเจาะเลือดเรียบร้อย พร้อมจ่ายเงินค่าคลอดค่ะ
หมอเยื้อน : ดีครับ เดี๋ยวหมอตรวจให้นะ
เชอรี่ : ค่ะ (รู้หน้าที่ ขึ้นเตียงทันที)



น้องวชิดิ้นโชว์

พยาบาล : เห็นตั้งแต่มาครั้งแรก นี่ใกล้คลอดแล้ว เร็วเหมือนกันนะคะ ตื่นเต้นแทน
เชอรี่ : ^^
หมอเยื้อน : หัวใจเต้น 140 ตอนนี้ดิ้นหัวใจเค้าก็จะเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ขึ้นไป 159 ครั้ง/นาที ขาก็อยู่ตรงนี้ (ด้านซ้าย)
เชอรี่ : ^^
หมอเยื้อน : อยู่ในท่ากลับหัวเหมือนเดิมแต่ยังไม่ลงไปประจำที่นะครับ วัดขนาดมดลูกก็เริ่มลงต่ำ ปกตินะครับ น้ำหนักทารกตอนนี้ประมาณ 2.80-3 โล ก็ไม่มีปัญหาอะไร



หมอเยื้อน : ตอนคลอดลูกน้ำหนักน่าจะมากกว่า 3 กิโลนะครับ
เอ็ม : อ้วนเลย 55
เชอรี่ : ลูกหมู
หมอเยื้อน : เลิกกินน้ำมันปลาแล้วนะครับ จากก็กินแคลเซียมกับ OMININ-AZ 2 ตัวเหมือนเดิมจนคลอด ยังมีอยู่ใช่ไหมครับ
เชอรี่ : ค่ะ
เอ็ม : วันนี้ฝากท้องครั้งสุดท้ายแล้ว เราเลยอยากจะถ่ายรูปกับคุณหมอหน่อยครับ
หมอเยื้อน : ได้สิ แต่จะถ่ายทำม้ายย วันคลอดก็ได้เจอกันอีก




เชอรี่ : พี่ๆ ฝากถามว่าจำนามสกุลนี้ได้ไหมคะ เค้าคลอดกับคุณหมอทุกคนเลย
หมอเยื้อน : "เจียรนัยพานิชย์" จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้
เชอรี่ : ยิ่งใกล้วันยิ่งตื่นเต้น กลัวด้วยค่ะ
หมอเยื้อน : ไม่มีอะไรหรอก ทำใจให้สบายๆ กินแล้วก็พักผ่อนเยอะๆ
เชอรี่ : ค่ะ

สรุป

  • อายุครรภ์ 36 สัปดาห์
  • น้ำหนักแม่ 55.5 กก. ขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2 ขีด ถูกหมอดุ ¥_¥
  • น้องวชิหนักประมาณ 2.80-3.00 กก. หมอบอกว่าตอนคลอดจะ 3 กก. กว่าแน่นอน
  • หัวใจเบบี๋เต้น 140-159 ครั้ง/นาที
  • อยู่ในท่ากลับหัว ดิ้นโชว์ระหว่างซาวด์
  • ค่าเสียหายวันนี้ 840 บาท
  • ไม่มีการนัดครั้งหน้า เพราะนี่คือการฝากท้องครั้งสุดท้ายแล้วค่าา



Thursday, April 23, 2015

ประสบการณ์ฝากครรภ์ครั้งที่ 7 กับหมอเยื้อน ฟังเสียงหัวใจ ยืนยันวันคลอด 5/5/15 ที่ BNH (35สัปดาห์)


ทุกครั้งที่หมอเยื้อนนัดว่าจะมาตรวจ เชอรี่กับเอ็มจะตื่นเต้นที่จะได้รู้พัฒนาการของลูกและเตรียมคำถามที่อยากรู้มาทุกครั้ง วันนี้มีคำถามเดียวคือเรื่อง "การคลอด" ที่เราได้ฟันธงไปไม่กี่วันนี้ว่าเลือก "วิธีผ่าคลอด"

17 เม.ย. 58 เวลา 17.40 น. เราไปถึงที่นวบุตร แน่นอนค่ะ ว่าเป็นคิวสุดท้ายเหมือนทุกครั้ง ได้คิวที่ 37 วันนี้คนไข้รอคิวเยอะ เราเลยต้องรอประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ตรวจฉี่เพื่อตรวจค่าน้ำตาลเหมือนทุกครั้ง

แล้วก็ถึงคิวเรา ...

หมอเยื้อน : เป็นยังไงบ้างครับ สบายดีไหม
เชอรี่ : สบายดีมากๆค่ะ กินเยอะมากๆ แล้วก็นอนเยอะสุดๆเลย
หมอเยื้อน : ดีแล้วครับ น้ำหนักขึ้น 2 อาทิตย์ 1 กิโล ขึ้นขนาดนี้กำลังดี ตรวจปัสสาวะแล้วน้ำตาลไม่สูง ไม่มีไข่ขาว
เชอรี่ : ^^
หมอเยื้อน : งั้นขี้นเตียงเลยนะครับ


ฟังเสียงหัวใจเบบี๋

หมอเยื้อน : ท้องใหญ่แล้ว นอนตะแคงด้วยน้า
เชอรี่ : ค่ะ
หมอเยื้อน : หัวอยู่ตรงนี้ (ใต้พุง) หลังอยู่ตรงนี้ (กลางพุงด้านขวา)
(หมอเยื้อนเอาเครื่องฟังเสียงหัวใจไว้บนพุง) ตอนนี้เค้าดิ้นอยู่นะ หัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้น ประมาณ 138-140 ครั้ง/นาที


ฟังเสียงหัวใจคลุกเคล้าเสียงดื้น

เบบี๋หมุนตัว

เชอรี่ : นี่ขาอยู่ตรงนี้หรือเปล่าคะ (กลางพุงด้านซ้าย)
หมอเยื้อน : เดี๋ยวหมอจะบอกให้นะ (เอาตุ๊กตามาสาธิต) เค้าอาจจะหมุนอย่างนี้นะครับ (หมุนทวนเข็มนาฬิกา) แต่ขณะนี้ วินาทีนี้เค้าอยู่อย่างนี้

ตอนนี้อยู่อย่างนี้


บางทีก็หมุนไปแบบนี้เลยครับ นั่นไง ...


เชอรี่ : ใช่ค่ะ เพราะบางทีก็รู้สึกว่าดิ้นตรงนี้ (มุมขวา)
หมอเยื้อน : วัดความสูงของมดลูกนะครับ น้ำหนักลูกประมาณ 2.40-2.50 กก. นะครับ เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร ตอนคลอดก็ 3 โลแหละ
เอ็ม : ลูกหมู
เชอรี่ : 55 คลอดลูกหมูออกมา พ่อแม่คลอดออกมายังไม่ถึง 3 โลเลยค่ะ แม่ 2.70 โลเอง

คอนเฟิร์มว่าผ่าคลอด !!

หมอเยื้อน : ยามีนะครับ
เชอรี่ : มีค่ะ ตอนนี้กิน 2 ตัวเหมือนเดิม
เอ็ม : เราตัดสินใจแล้วครับว่าจะผ่าคลอดวันที่ 5 พ.ค. 2558
เชอรี่ : แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นลูกจะแข็งแรง สมบูรณ์หรือเปล่า ต้องมาตรวจเรื่อยๆแล้วค่อยสรุปหรือเปล่าคะ
หมอเยื้อน : ตอนนั้น 38 สัปดาห์แล้ว คลอดได้ไม่มีปัญหา ท้องแรกเค้าก็มักเจ็บท้องคลอดกันสัปดาห์นี้แหละ
เชอรี่ : คือถ้าเราตัดสินใจคลอดธรรมชาติก็ต้องรอเจ็บท้องค่อยไปโรงพยาบาลใช่ไหมคะ
หมอเยื้อน : ก็ต้องรอน้ำเดิน มดลูกเปิด ก็กำหนดวันไม่ได้ ถ้าปวดก็ติดต่อที่โรงพยาบาลเลย
เอ็ม : เราตัดสินใจว่าผ่าคลอดครับ
หมอเยื้อน : มีหมอเด็กที่คิดไว้ยังครับ
เชอรี่ : หมอสุธีราค่ะ
หมอเยื้อน : งั้นหมอจองห้องกับทางโรงพยาบาลเลยนะครับ คือวันที่ 5 พ.ค. 2558 เวลา 9 โมงเช้า ที่ BNH
(แล้วหมอก็โทรไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อจองห้องและแจ้งคิวผ่าตัด)
คืนวันที่ 4 ก็ไปนอนรอได้เลยตั้งแต่ 2 ทุ่ม หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่จาก BNH โทรหาเพื่อแจ้งรายละเอียด
เชอรี่ : ว่องไวมากๆเลย ขอบคุณคุณหมอนะคะ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ

น้ารุตมาซ้อมเยี่ยม 55

สรุป

  • อายุครรภ์ 35 สัปดาห์
  • น้ำหนักแม่ 55.3 กก.
  • เบบี๋ ~2.40-2.50 กก. หมอบอกว่าตอนคลอดจะ ~3 กก.
  • หัวใจเบบี๋เต้น 138-140 ครั้ง/นาที
  • อยู่ในท่ากลับหัว ดิ้นโชว์ระหว่างซาวด์
  • ค่าเสียหายวันนี้ 840 บาท
  • เจอกันอีกครั้งศุกร์ที่ 24 เม.ย. 58 เป็นครั้งสุดท้ายก่อนคลอด


Saturday, April 18, 2015

บันทึกว่าที่คุณแม่ท้อง 8 เดือน



อีกไม่ถึงเดือนเชอรี่ก็จะได้เจอเบบี๋แล้วนะคะ นับถอยหลังรอ จากแต่ก่อนนับเป็นเดือน ตอนนี้นับเป็นวัน ยิ่งทำให้ตื่นเต้นขึ้นไปอีก

ช่วงนี้เห็นใครอุ้มเบบี๋ก็แอบมองตลอด อยากอุ้มน้องวชิแล้วบ้างจัง ...



สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

  • น้ำหนักคุณแม่ขึ้นไปจน 54.3 กก.
  • น้ำหนักคุณลูก 2.20 กก. (33 สัปดาห์) และ 2.50 กก (35 สัปดาห์) 
  • เบบี๋นอนหลับมากกว่าเดือนก่อนๆ แต่พอตื่นทีก็ดิ้นแรงถึงแรงมาก 
  • มดลูกลดลงมาต่ำกลายเป็นคนท้องแก่เต็มตัว
  • เวลาเดินแอ่นพุงอย่างไม่รู้ตัว
  • ท้องแข็งโป๊ก
  • ท้องขยายขึ้นเร็วมาก รอบเอว 38" ในสัปดาห์ที่ 35 แต่ท้องยังไม่ลาย

  • เท้าบวมจนใส่รองเท้าบางคู่ไม่ได้
  • ลุกมาฉี่กลางดึกคืนละ 1 ครั้งประมาณช่วงตี 4 หรือบางวันเหนื่อยๆ ก็สลบยาวไม่ลุกเลย
  • เป็นตะคริวตรงขาเหมือนเดิม ช่วงเช้าๆตอนตื่นนอนเพราะขยับขาปุ๊บก็เจ็บเลย ต้องนอนนิ่งๆสักพักถึงจะดีขึ้น
  • ท้องผูกรุนแรงมากขึ้น ใช้วิธีกินน้ำมะพร้าวพร้อมมื้ออาหารช่วยได้ มะละกอบ้าง หรือกล้วยน้ำว้า ต้องกินเยอะๆ ได้ผลเลย
  • นัดวันผ่าคลอดกับคุณหมอเยื้อน คือวันที่ 5 / 5 / 15 เวลา 9 โมงเช้า วันที่ 4 พ.ค. 58 คุณหมอให้ไปนอนรอที่โรงพยาบาลเลย


สิ่งควรทำ

  • จัดกระเป๋าเตรียมพร้อมเผื่อปวดท้องคลอดกระทันหัน พร้อมเอกสารที่ต้องใช้
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ ไข่ นม เนื้อสัตว์ เนื้อปลา ผัก ผลไม้ ฯลฯ แต่บางอย่างที่ไม่ควรกินก็สามารถกินได้บ้างถ้ามันทำให้คุณแม่มีความสุข (อันนี้เข้าข้างตัวเอง 55)

  • ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
  • งดเรื่องเครียดๆ นอนพักผ่อนให้เต็มที่
  • ทาครีมกันพุงลายอย่างสม่ำเสมอ
  • ตัดสินใจเรื่องการคลอดว่าจะผ่าหรือคลอดเอง พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลไว้ด้วย

สามีพาไปซื้อของให้น้องวชิ เชอรี่ก็หยิบเท่าที่จำเป็นก่อน

สิ่งที่เกิดขึ้น

  • ถ่ายรูปตอนพุงโตๆ บันทึกไว้ คงไม่ได้ท้องบ่อย นี่ก็น่าจะเป็นการท้องครั้งเดียวของเชอรี่เพราะตั้งใจมีลูกคนเดียว

  • ว่ายน้ำ หนังสือบอกว่าคนท้องควรออกกำลังกาย อากาศร้อนๆอย่างนี้คุณแม่กระโดดลงสระเลยค๊าา แต่ควรหยุดว่ายน้ำ 2-3 สัปดาห์ก่อนคลอดเพราะอาจมีน้ำเดินตอนว่ายน้ำได้

  • ดู YouTube เรื่องการคลอด, การอาบน้ำ, การให้นม ฯลฯ ถึงเวลาปฏิบัติจะได้คุ้นบ้าง แต่ดูไปดูมาร้องไห้ไม่หยุดเลยเพราะกลัวตอนคลอด
  • เพิ่งเข้าใจเอ็มว่าทำไมอยากให้เชอรี่ลาคลอดเร็วๆ เอ็มบอกว่าเราเหลือช่วงเวลาที่จะได้อยู่กัน 2 คนน้อยลง อยากจะใช้เวลานี้อยู่ด้วยกันให้นานที่สุดก่อนจะคลอดเบบี๋ แล้วเค้าก็ทำให้รู้ว่าเชอรี่รักผู้ชายคนนี้มากจริงๆ และเราก็พร้อมจะมีเบบี๋ด้วยกันเพื่อทำให้ครอบครัวเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

  • ลาคลอดแล้ว ไปทำงานวันสุดท้าย 17 เมษา 58 หลังจากนี้ก็เตรียมเป็นคุณแม่เต็มตัว
  • อาทิตย์ก่อนสงกรานต์เป็นช่วงเลี้ยงส่งกินอิ่มหนำสำราญ
ทีมพาไปเลี้ยงส่งที่ Atus หลังสวน กินข้าวเหนียวมะม่วง 2 จาน เค้ก 4 ก้อน >.<

เลี้ยงส่งที่คิชิน ห้องเล็กๆ อัดกันไป 14 คน ไม่รู้นั่งกันได้ยังไงแต่โคตรมีความสุขเลย


  • ไปคาราโอเกะ ไปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่จำไม่ได้ รู้แต่ว่าไปตอนท้องแก่ก็ยังสนุกได้ คงเพราะคนที่ไปด้วย 

  • น้องวชิเริ่มได้ของขวัญ ทั้งเสื้อผ้า ของเล่น ขวดนม ของเล่น แม้กระทั่งทอง ได้เยอะมากๆ จนนึกว่าคลอดแล้วซะอีก 55 ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะ 

ป้าวิส่งต่องของใช้ให้น้องวชิครับ

น้าปุ๋มส่งเสื้อผ้า สบู่ ครีมแม่ และอ่างอาบน้ำ 4Moms สุดไฮโซ คุณแม่จะทำพังก่อนมั้ย ^^"

ป้านุชให้ของเล่นแล้วครับ ถูกใจคุณแม่มาก 55

พี่หลาเจ้านายที่ทำงานมาด้วยกันแสนนาน ให้ทองคุณแม่และน้องวชิ

มีอีกเยอะมากแต่ลงรูปไม่ไหว ^^"

เดือนนี้ถือว่าเป็นเดือนที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงไม่เยอะ เยอะสุดคงเป็นเรื่องขนาดรอบท้อง และหยุดทำงานหลังจากทำมาตลอดมากกว่า 10 ปี จากนี้คงคิดถึงความเป็นสาวออฟฟิศน่าดูเลย



Sunday, April 12, 2015

ประสบการณ์ฝากครรภ์ครั้งที่ 6 กับหมอเยื้อน ฟังเสียงหัวใจ พร้อมกำหนดวันคลอด (33 สัปดาห์)



การฝากครรภ์กับหมอเยื้อนทุกครั้งยังคงเป็นการเฝ้ารอของเชอรี่กับเอ็มเสมอ เพราะเราจะได้รู้พัฒนาการลูก แม้รู้ว่าครั้งนี้ไม่ได้เห็นหน้า แค่ได้ยินเสียงหัวใจและคำพูดถึงพัฒนาการลูกก็มีความสุขแล้ว

วันนี้ 3 เม.ย. 2558 เชอรี่กับเอ็มไปถึงนวบุตร 17.50 น. แน่นอนว่าเป็นคิวสุดท้ายอีกแล้วค่ะ ได้คิวที่ 37 ต้องตรวจฉี่เพื่อตรวจค่าน้ำตาลเช่นเคย รอคิวไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เข้าพบคุณหมอแล้ว



หมอเยื้อน : สวัสดีครับ
เชอรี่ & เอ็ม : สวัสดีค่ะ/ครับ
วันนี้คุณหมอค่อนข้างอารมณ์ดี ชิวกว่าทุกๆวัน
หมอเยื้อน : น้ำหนักขึ้นเกณฑ์ปกติ น้ำตาลปกติ วันนี้หมอจะตรวจแล้วให้ฟังเสียงหัวใจนะครับ
เชอรี่ : ค่ะ (พร้อมเดินขึ้นเตียงตรวจอย่างรู้หน้าที่)

ฟังเสียงหัวใจเบบี๋

หมอเยื้อน : ลูกกลับหัวอยู่ในท่าปกติแต่ยังไม่ลด ตรงนี้ขา พร้อมชี้ไปด้านซ้ายของพุง
เชอรี่ : ใช่ค่ะ รู้สึกว่าถีบตรงนี้แรงมาก
เชอรี่ & เอ็ม : ยิ้มแฉ่งทั้งคู่
หมอเยื้อน : พยายามนอนตะแคงนะครับ
เชอรี่ : ซ้ายขวาได้เหมือนกันหมดไหมคะ
หมอเยื้อน : หัวใจเต้น 145 ครั้ง/นาที ปกติดีทุกอย่างนะครับ



เชอรี่ : ค่ะ
หมอเยื้อน : นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆ นี่ตัวใหญ่กว่าเยอะเพราะนี่เป็นขนาดเด็กครบกำหนดแล้ว (เอาตุ๊กตาปลอมมาสาธิตท่านอนเบบี๋ให้ดู) เค้ายังหมุนอย่างนี้ได้ (ขยับนิดหน่อย)



นี่เราวัดความสูงของมดลูก 30 ซม. ไม่ใช่ความสูงของเด็กนะ เด็กก็ยังนอนขดอยู่ตรงนี้

ตอนนี้ทารกหนัก 2.20 กิโลแล้ว
เชอรี่ : หมูน้อยนี่นาาาาา ^^
หมอเยื้อน : พยายามควบคุมไม่ให้น้ำหนักขึ้นเยอะเกินไปนะครับ
เชอรี่ : ค่ะ (แต่ช่วงนี้ข้าวเหนียวมะม่วง ไอติม ขนมเค้กไม่ขาดสายเลย)


จะผ่าคลอด 5 / 5 / 15

หมอเยื้อน : สรุปว่าจะคลอดธรรมชาติใช่ไหมครับ
เอ็ม : ไม่ใช่ครับ กะว่าจะให้ภรรยาผ่าคลอด
เชอรี่ : คลอดเองไม่ไหวค่าาาา
หมอเยื้อน : ลองก่อนไหมครับ น่าจะไหวนะ คลอดเองก็ฟื้นตัวเร็วด้วย
เอ็ม : ตัดสินใจแล้วครับว่าจะให้ผ่าที่ BNH ครับ
หมอเยื้อน : ดูฤกษ์มาแล้วเหรอครับ

เอ็ม : ว่าจะผ่าคลอดวันที่ 5 เดือน 5 ปี 15 ครับ
หมอเยื้อน : ดูฤกษ์แล้วใช่ไหมครับ
เชอรี่ : ไม่ค่ะ วันเลขสวย ^^
เอ็ม : ได้วันแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเวลาไหนดี คุณหมอช่วยแนะนำหน่อยครับ
หมอเยื้อน : 9 โมงเลยไหมล่ะ กว่าจะผ่าเสร็จออกจากห้องคลอด ฟื้นมาญาติๆก็มาเยี่ยมได้เลย คืนวันที่ 4 ก็ไปนอนโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัว
เชอรี่ : ไม่เสียเงินเพิ่มเหรอคะ เพราะในแพคเกจรวมห้องพักแค่ 3 คืน
หมอเยื้อน : ไม่เสียครับ (แล้วหมอก็หยิบ iPhone6 Plus ขึ้นมาดูตาราง) ตอนนี้ยังจองห้องไม่ได้ เดี๋ยวอีก 2 อาทิตย์นัดตรวจ หมอจะจองห้องกับทางโรงพยาบาลให้นะครับ
เชอรี่ : เราไม่ต้องติดต่อกับโรงพยาบาลเลยเหรอคะ
หมอเยื้อน : ครับ เดี๋ยวหมอจองให้เรียบร้อยเลย
เชอรี่ : ดีจังเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

หมอเยื้อน : วิตามินทั้ง 3 ตัวหมดยังครับ
เชอรี่ : ยังค่ะ ตอนนี้กินแค่แคลเซียมกับ OBIMIN-AZ ค่ะ น้ำมันปลาหยุดกินไปแล้วเพราะกลัวเรื่องเลือดไม่จับตัว
หมอเยื้อน : ครับ งั้นก็ทาน 2 ตัวต่อไปปกติ แล้วก็ทานปลาเยอะๆนะครับ
เชอรี่ : ค่ะ
หมอเยื้อน : หยุดสงกรานต์ไปเที่ยวได้นะครับ
เชอรี่ : ค๊าา ให้ไปไหนคะ
หมอเยื้อน : ไปได้หมดครับ ใกล้ๆก็พัทยา
เชอรี่ : 555 คิดไม่ออกเลยค่ะ กะว่าจะนั่งๆ นอนๆ เที่ยวใกล้ๆ ในกรุงเทพฯค่ะ
เอ็ม : สงกรานต์นี้ไปเที่ยวไหนครับ
หมอเยื้อน : ไปญี่ปุ่น 1 อาทิตย์ครับ พรุ่งนี้เดินทาง
เชอรี่ : ดีจังเลยค่ะอยากไปบ้าง เที่ยวให้สนุกนะคะ ^^

สรุป


  • คุณแม่หนัก 54.3 กก. ขึ้นจากก่อนท้องประมาณ 11 กก.
  • เบบี๋อยู่ในท่ากลับหัวเหมือนครั้งก่อน
  • เบบี๋หนัก 2.20 กก.
  • หัวใจเต้น 145 ครั้ง/นาที
  • นัดผ่าคลอด 5 พ.ค. 58 เวลา 9 โมงเช้า
  • หมอให้กินวิตามิน 2 ตัวเหมือนเดิม
  • คุณหมอแนะนำให้ไปเที่ยวพัทยา 55
  • ค่าเสียหายวันนี้ 840 บาท
  • เจอกันอีกที 2 อาทิตย์ ศุกร์ที่ 17 เม.ย. 58




Sunday, April 5, 2015

เมื่อคุณแม่มือใหม่เตรียมของให้ตัวเองและลูกน้อยก่อนวันคลอด




เชอรี่เป็นคุณแม่คนหนึ่งที่ไม่ถือเรื่องห้ามเตรียมของให้ทารกก่อนคลอด เพราะเราเป็นคุณแม่มือใหม่ อยากเตรียมตัวให้ดีที่สุด เชอรี่กับเอ็มเลยไม่ลุ้นเพศของลูก จะได้หาซื้อของไว้ล่วงหน้าได้เหมาะกับลูกของเรา

การเตรียมของให้ทารกไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ จากที่เชอรี่พยายามหาข้อมูลมาหลายเดือน และทยอยซื้อไปแล้วหลายอย่าง ยังเหลือเยอะมากที่ตอนนี้ยังซื้อไม่ครบ เลยอยากจะเขียนบล็อกไว้แนะนำว่าที่คุณแม่คนต่อๆ ไป

เชอรี่แบ่งเป็นหลายหมวดหมู่เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายนะคะ เพราะนอกจากเตรียมของให้ลูกแล้ว คุณแม่ยังต้องเตรียมของให้ตัวเองด้วย


เตรียมของให้ทารก


ของบางอย่างควรจะต้องเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อวินาทีที่ลูกกลับมาอยู่บ้านแล้ว โดยที่ไม่มีคุณหมอหรือพยาบาลช่วยดูแล ทุกอย่างจะต้องพร้อมใช้งาน บางอย่างควรซื้อไว้ก่อน บางอย่างไว้ซื้อหลังคลอดนะคะ

ซื้อก่อนคลอด

มองหาล่วงหน้านานๆ

ส่วนใหญ่จะเป็นของที่มีมูลค่าสูง ต้องศึกษาข้อมูลดีๆ หรือเผื่อมีช่วงลดราคา อย่างงาน Thailand Baby & Kids Bestbuy ที่จัดเป็นประจำทุก 3 เดือน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาดงานนี้ แนะนำให้หายี่ห้อหรือรุ่นที่ชอบก่อนนะคะ list ไว้เลยค่ะ ว่าต้องซื้ออะไรบ้าง ลดราคาเยอะมากจริงๆ แถมยังสะดวกไม่ต้องตามหาของทีละชิ้นด้วย งานนี้มีครบเลย แต่ไม่ควรไปตอนท้องแก่นะคะเพราะคนมหาศาลมาก จะไปเบียดไม่ไหว

  • เตียง หลายคนมองว่าไม่จำเป็น ซื้อมาแล้วลูกไม่ยอมนอน แต่ว่าเชอรี่กับเอ็มนอนดิ้นค่ะ กลัวกลิ้งทับลูก เตียงนุ่มไปสำหรับทารก หรือวันหน้าถ้าเค้าคลานได้ก็กลัวตกเตียง อันตราย ซื้อเลยดีกว่า

  • Car Seat เป็นอีกอย่างที่เชอรี่ว่ามันจำเป็นมาก ควรซื้อไว้ล่วงหน้าเลย แล้วฝึกให้ลูกนั่งทุกครั้งที่ขึ้นรถ เพราะช่วงแรกๆ เด็กยังคอไม่แข็ง เผื่อมีอุบัติเหตุหรือเบรคกระทันหัน เจ้าตัวนี้จะช่วยป้องกันลูกน้อยของเราได้ค่ะ หรือพอเค้าโตขึ้นเราก็จะได้ไม่ต้องอุ้มเค้าตลอดเวลา เผื่อไปเที่ยวกันจะได้ไม่เหนื่อย 
  • รถเข็นเด็ก ในงานฯ หรือตามห้างมีจัดรายการบ่อยๆค่ะ ควรเลือกรุ่นที่สามารถนั่งได้ตั้งแต่แรกเกิด พกพาสะดวก พับเก็บ-กางง่าย เข็นง่าย ควรทดลองเข็นจนถูกใจแล้วค่อยซื้อค่ะ หรือถ้ายังไม่ถูกใจรอหลังคลอดค่อยซื้อได้ค่ะ เผื่อจะได้พาเบบี๋ไปทดลองนั่ง เลือกอันที่ถูกใจเค้าเลย 
  • เครื่องปั๊มนม เป็นอย่างหนึ่งที่จำเป็นมาก เพราะหลังคลอดแล้วน้ำนมจะไหลทันที หรือถ้าไม่ไหลทางคุณหมอก็จะมีวิธีกระตุ้นน้ำนม แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าแล้ววันคลอดถือไปโรงพยาบาลด้วย จะได้ฝึกใช้จริงโดยมีผู้เชี่ยวชาญช่วยสอน ตอนกลับไปอยู่บ้านแล้วจะได้ไม่เก้ๆกังๆ แนะนำให้ซื้อแบบมอเตอร์และปั๊มได้พร้อมกัน 2 ข้างจะได้ไม่เสียเวลา ยี่ห้อยอดฮิตคือ Medela รุ่น Advance กับ Free Style กับ Avent ทั้งนี้แล้วแต่งบประมาณด้วยนะคะ เพราะราคาค่อนข้างสูงเลย
แบบมอเตอร์ 1 ข้าง 11,500 บาท, 2 ข้าง 16,600 บาท


ซื้อช่วงใกล้คลอด

เพราะราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย และแถมมีโปรโมชั่นกันเรื่อยๆ ด้วย ถ้าซื้อไว้ล่วงหน้านานๆ ก็เปลืองเงิน เปลืองที่เก็บไปหลายเดือน

  • เสื้อผ้า 
    • แบบผูกเชือก เป็นแบบที่ใส่ง่าย เนื้อผ้าบาง เบา เด็กใส่ก็สบายตัวค่ะ เหมาะกับคุณแม่มือใหม่ แนะนำไม่ควรซื้อแบบมีกระดุมเพราะลูกนอนทับแล้วจะไม่สบายตัว 
    • บอดี้สูท ใส่แล้วดูน่ารักดี ดูเป็นเบบี๋แต่ใส่ยากกว่าแบบแยกเสื้อ กางเกง เลือกแบบที่เปิด-ปิดตรงขานะคะ จะได้เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ง่ายๆ 
    • ชุดหมี เอาไว้ใส่นอนค่ะ เพื่อนๆแนะนำว่าใส่แล้วลูกหลับได้สนิทเพราะปิดปลายเท้าพอดี จะได้ไม่ต้องสวมถุงเท้า ยิ่งนอนแอร์ด้วย ช่วยให้อบอุ่นได้
ถ้าเห็นป้ายสีแดงๆ ก็ซื้อไว้ก่อนได้เลยค่ะ
  • ผ้าอ้อม ขนาด 27"x27" มีผ้าสาลูกับผ้าสำลี ดีทั้งคู่ ผ้าสำลีผ้าจะหนาซับน้ำได้มากกว่า หลายคนแนะนำ Enfant Gold บอกว่ายิ่งซักยิ่งนิ่ม เชอรี่เลยซื้อมาลอง ช่วงแรกต้องใช้เยอะมากเพราะลูกจะอึ, ฉี่วันละเป็นสิบรอบเลย ถ้าขยันซักก็ให้ลูกใช้แทนผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ ช่วยให้ประหยัดได้ค่ะ (แต่ช่วงแรกๆ คงต้องใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไปก่อนเพราะคุณแม่คงเจ็บแผลมาก ยังซักผ้าไม่ไหว)

  • หมวก ไว้สวมตอนพาลูกออกไปข้างนอกค่ะ จะได้ไม่เย็นหัวแล้วจะได้หล่อๆด้วย 
  • ถุงมือ เอาไว้ใส่กันเล็บข่วนหน้าลูก แต่เชอรี่ไม่ซื้อเยอะค่ะ จะให้ใส่แค่เดือนแรก เพราะหลายคนบอกว่ามันจะไปกีดกั้นพัฒนาการลูกที่จะกำหรือแบมือ 
  • ถุงเท้า เอาไว้ใส่จะได้อุ่นๆ ค่ะ เลือกขนาดสำหรับเด็กแรกเกิดนะคะ เพราะเท้าเค้าเล็กมาก ถ้าใหญ่เกินไปถีบนิดเดียวก็หลุดออกแล้ว 
  • ผ้าเช็ดตัวลูก เลือกผืนไม่ใหญ่ ไม่หนาเกินไป ผ้านุ่มๆ ไม่เป็นขุยนะคะ 
  • ผ้าห่อตัว ได้ใช้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดเลยค่ะ ห่อตัวตอนอาบน้ำจะได้จับตัวง่ายๆ และห่อตัวเวลานอนหลับ เค้าจะได้ไม่ขยับตัว ห่อเป็นหนอนน้อย เราจะได้ไม่ต้องห่วงว่าถ้าเค้าขยับหรือพลิกคว่ำแล้วจะหายใจไม่ออก



  • ผ้ายาง เชอรี่ซื้อมา 3 แบบเลย ทั้งเป็นผ้านุ่ม/ผ้ายาง กำมะหยี่/ผ้ายาง ผ้ายางทั้ง 2 ด้าน ลองดูว่าเบบี๋จะชอบแบบไหน 
  • ผ้าห่ม เลือกเนื้อผ้านุ่มสบาย สวยงามตามใจชอบได้เลย 
  • หมอนหลุม เด็กแรกเกิดเค้าก็ไม่ต้องใช้หมอนค่ะ อันนี้จะได้ใช้ช่วงที่เค้านอนคว่ำแล้ว (3 เดือน) ที่ต้องเป็นหมอนหลุมเพราะเวลานอนคว่ำกันเค้าจะหายใจไม่ออก 
  • มุ้ง อันนี้เชอรี่ไม่ได้ซื้อค่ะเพราะอยู่คอนโดไม่ค่อยมียุง คุณแม่หลายคนบอกว่า เห็นลูกถูกยุงกัดทีแทบขาดใจ อยากจะฆ่ายุงให้ตาย 55
  • โมบายแขวนขอบเตียง ไว้เสริมพัฒนาการลูก เน้นแบบที่มีสีสันหรือมีเสียงด้วยก็ได้ค่ะ เค้าจะได้มองตาม
  • โต๊ะ/เบาะเปลี่ยนผ้าอ้อม บางคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็น แต่คุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดอาจจะก้มๆ เงยๆ เพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมวันละเป็น 10 ครั้งไม่ไหว เชอรี่ซื้อจากงานฯ แค่เบาะแล้วจะวางบนโต๊ะอื่นแทนค่ะ ประหยัดเงิน ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า ซื้อจากงานแค่ 699 บาท สวย ดูดีด้วย 

ของใช้จุกจิก

ซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ต หาซื้อไม่ยากเลยค่ะ มีโปรโมชั่นเรื่อยๆ เลย ไม่ต้องรีบ
  • ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นของเยี่ยมสุดฮิต เด็กแรกเกิดใช้ขนาด New Born เตรียมไว้ 1 ห่อใหญ่ก็น่าจะพอนะคะ ราคาไม่ต่างกันมาก Mommy Poko เค้าว่ากันว่าดีสุดแต่ราคาก็แพงสุดเช่นกัน 
  • สำลีก้อน ใช้เช็ดรอบตา เช็ดก้น ใช้แทนทิชชู่เปียก โดยการใช้น้ำต้มสุกปล่อยให้อุ่นๆ แล้วเทใส่กล่องไว้ หรือจะใช้ขวดปั๊มทีละก้อนเวลาใช้ก็ได้เหมือนกัน 
  • กระปุกใส่สำลีเช็ดก้อน เตรียมไว้กรณีที่จะใช้แบบเทน้ำไว้รอทีเดียว


  • ทิชชู่เปียก ใช้เช็ดก้นเวลาพาลูกออกไปข้างนอก สะดวกกว่าสำลี เลือกที่ไม่โลชั่นหรือน้ำหอมนะคะ 
  • Cotton Bud baby size ไว้ปั่นหูเบบี๋หลังอาบน้ำ 
  • สบู่ แชมพู โลชั่น ถ้าซื้อไม่ควรซื้อขวดใหญ่เพราะบางทีลูกอาจจะแพ้ อย่างเชอรี่ไม่เตรียมไว้ล่วงหน้าค่ะ จะรอดูว่าที่โรงพยาบาลใช้ยี่ห้ออะไรจะได้ซื้อตามเลย เห็นว่าหลายโรงพยาบาลให้เป็นกิ๊ฟเซ็ทกลับบ้านด้วย แถมเป็นของเยี่ยมยอดฮิตด้วย
  • น้ำยาซักผ้าเด็ก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างขวดนม มีโปร 1 แถม 1 อยู่เป็นประจำค่ะ ถ้าไม่แถมยังไม่ต้องรีบซื้อค่ะ
  • เบบี้ออย ไว้เทลงอ่างอาบน้ำ เพื่อผิวลูกจะได้ไม่แห้งไป


อื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ

  • กะละมังอาบน้ำ คิดว่ายี่ห้อไหนคงไม่ต่างกัน เชอรี่เล็งของ IKEA อยู่นานจนตอนนี้ของหมด 3 เดือนแล้ว สิ้นหวังค่ะ ชอบที่ราคา 299 คุณภาพดี มีกันลื่นด้วย
  • เก้าอี้อาบน้ำ สำหรับคุณแม่มือใหม่กลัวคุณลูกดิ้นหลุดมือ มีหลายราคาตั้งแต่หลักร้อยจนหลายพัน เชอรี่ซื้อของ Camera จากในงานลดเหลือ 275 บาท
  • ฟองน้ำอาบน้ำ เลือกที่ผลิตจากธรรมชาติจะเนื้อนุ่ม ใช้ชุบน้ำล้างหน้าเบบี๋ได้เลย ซื้อแบบที่เนื้อแน่นจะใช้งานได้นานกว่า ใช้เสร็จล้าง ผึ่งให้แห้งห้ามโดนแดด โดนความร้อน 

  • หวีแปรงอ่อน ไว้เสริมหล่อเบบี๋หลังอาบน้ำเสร็จครับ 
  • กรรไกรตัดเล็บ เห็นมีหลายแบบ ทั้งแบบกรรไกร แบบที่ผู้ใหญ่ใช้ เลือกตามถนัดได้เลยค่ะ 
  • ขวดนม อย่าซื้อเยอะค่ะถ้าเราจะให้ลูกดื่มนมเรา เพื่อนแนะนำ Dr. Brown Anti Colic ลูกดื่มแล้วจะไม่มีลมในท้อง
  • แปรงล้างขวดนม, จุกนม เลือกแบบที่ขนอ่อนนุ่มจะไม่ทำให้ขวดนมเป็นรอย
  • เครื่องนึ่งขวดนม ซื้อแบบอบได้ดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องรอให้น้ำแห้ง มีให้เลือกหลายยี่ห้อ เลือกได้ตามชอบเลย
  • ถุงเก็บน้ำนม บางยี่ห้อแพงกว่ายี่ห้ออื่นมากแต่คุณภาพอาจจะไม่ต่างกันมาก แนะนำให้เลือกยี่ห้อที่ชอบ ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย เพราะต้องใช้จำนวนมาก เลือกที่เนื้อเหนียวนุ่ม ถ้าใช้แบบเดียวกันทั้งหมดก็จัดเก็บง่าย เป็นระเบียบ ยี่ห้อยอดนิยมคือ Sunmom ราคาถูกคุณภาพใช้ได้ สั่งซื้อออนไลน์ได้เลย นอกจากนี้เชอรี่ได้สำรวจราคามาฝากค่ะ เผื่อไว้เป็นทางเลือก
    • Natur 30 ถุง ราคา 90 บาท (3)
    • Pur 50 ถุง ราคา 185 บาท (3.70)
    • Nanny 50 ถุง ราคา 200 บาท (4)
    • Camera 20 ถุง ราคา 96 บาท (4.80)
    • Pigeon 25 ถุง ราคา 165 บาท (6.60)
    • Boots 40 ถุง ราคา 150 บาท (3.75)
  • ปากกา permanent ไว้เขียนถุงเก็บน้ำนม

ยา

เป็นสิ่งที่ควรเตรียมไว้เพราะไม่รู้ว่าเบบี๋ของเราจะมีอะไรผิดปกติที่ไหน เมื่อไหร่

  • ครีมทากันผื่นผ้าอ้อม เป็นของจำเป็นมาก ควรมีไว้เลย เพื่อนแนะนำ Bepanthen บอกว่าช่วยได้เยอะมาก และ Ezerra มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยให้ผิวลูกไม่แห้ง ไม่แพ้ คงจะต้องเตรียมไว้แน่นอน 
  • หมาหิงค์ เผื่อลูกไม่สบายท้อง มีลมเยอะก็ช่วยได้ 
  • ปรอทวัดไข้ ควรซื้อแบบดิจิตอลวัดที่หูค่ะ มีหลายยี่ห้อ ราคาไม่กี่ร้อย 
  • ที่ดูดน้ำมูก 
  • หลอดป้อนยาน้ำเด็ก 
  • ผ้า/ถุงประคบเย็น 
เป็นถุงประคบเย็นที่น่ารักฝุดๆ
  • น้ำเกลือ 
  • แอลกอฮอล์
  • น้ำยาทารอบสะดือ ไว้ทาหลังอาบน้ำช่วงที่สะดือยังไม่หลุด


เตรียมของให้คุณแม่


นอกจากเตรียมของใช้ให้คุณลูกแล้ว คุณแม่ก็อย่าลืมเตรียมของสำหรับตัวเองด้วยนะคะ

ของใช้

  • สื้อที่มีกระดุมหน้า หรือสามารถเปิดให้นมลูกได้ จะได้ไม่ต้องถลก 
  • ชุดนอน แบบกระโปรงเพราะหลังคลอดเราจะเจ็บแผลคลอดเลยใส่แบบกางเกงไม่ไหว เพื่อความสะดวกแนะนำให้เปิดกระดุมหน้าด้วยนะคะ จะได้นอนให้นมได้ 
  • ชุดชั้นในให้นม จะสามารถปลดสายตรงบ่าได้ ไว้สวมกับเสื้อกระดุมหน้าจะสะดวกมาก ค่อยซื้อตอนใกล้คลอดค่ะ เผื่อเต้านมจะขยายอีกเยอะ แนะนำว่าไม่ควรซื้อรุ่นมีโครงเพราะทำให้เจ็บ จากที่ลองใส่แล้ววาโก้เนื้อผ้าดีแต่ใส่ไม่สบายเท่าสั่งออนไลน์ ควรซื้ออย่างละตัวมาลองใส่ก่อนว่าใส่แบบไหนแล้วเหมาะกับเรา

  • แผ่นซับน้ำนม ตั้งแต่คลอดเราจะมีน้ำนมซึมออกมาตลอด จำเป็นมากเลยค่ะ 
  • หมอนให้นม ช่วยแบ่งเบาแรงเรามากเพราะเราต้องให้นมเบบี๋นาน เอะอะๆเข้าเต้า ยิ่งช่วงแรกที่เจ็บแผลคลอดจะได้ไม่กดทับแผล 
  • ผ้าคลุมให้นม ไว้สำหรับเวลาไปข้างนอก จะได้ไม่โป๊ 
  • ผ้าอนามัยแบบกลางคืน เพราะหลังคลอดน้ำคาวปลาจะไหลเยอะ 
  • ถุงเท้า เอาไว้เผื่ออยู่ไฟ อย่านอนห้องแอร์ ทำตัวให้อุ่นไว้ ทำตัวเหมือนอยู่ไฟ 
  • น้ำขิง ไว้กระตุ้นน้ำนม ยี่ห้อ HOTTA เป็นขิงผงผสมใยอาหาร รสชาติอร่อย ไม่มีน้ำตาล มีขายทั่วไป 
  • กระเป๋าสัมภาระของลูก ที่เอาไว้ใส่ทุกอย่าง
  • กระติกน้ำร้อน 
  • กระบอกเก็บน้ำร้อน 
  • กระเป๋าเก็บความเย็น เอาไว้เก็บนมกับเครื่องปั๊มนมตอนออกไปปั๊มข้างนอก 

ยา

แม้ช่วงหลังคลอดแล้วคุณแม่ก็ยังไม่ควรทานยาเพราะต้องให้นมลูก ลูกจะได้รับโดยตรงจากน้ำนม ยาที่ใช้คือบรรเทาอาการเจ็บจากการให้นม
  • ครีมทากันหัวนมแตก เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ต้องติดกระเป๋าไปด้วยตั้งแต่ตอนคลอดเลย 
  • ผ้าประคบร้อน เผื่อเต้านมคัด เอามาประคบได้ 

เตรียมของไปโรงพยาบาล

คุณแม่ควรจัดกระเป๋าไว้ล่วงหน้าตั้งแต่สัปดาห์ที่ 34 เป็นต้นไป เพราะไม่รู้ว่าเราจะปวดท้องคลอดก่อนที่หมอกำหนดหรือเปล่า เลยจะต้องเตรียมพร้อมเสมอ
  • เอกสารสำคัญ คือ สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนสมรส, ทะเบียนบ้านที่เด็กจะย้ายเข้า (บางโรงพยาบาลมีบริการแจ้งเกิดให้) และใบฝากครรภ์
  • ถุงเท้าอุ่นๆ
  • เสื้อชั้นในให้นมและแผ่นซับน้ำนม
  • กางเกงชั้นในแบบรัดหน้าท้อง
  • ผ้ารัดหน้าท้อง (สำหรับคนที่ผ่าคลอด) เพราะจะช่วยให้แผลไม่ขยับ แล้วหายเร็วขึ้น
  • ผ้าอนามัยอย่างหนา
  • เครื่องใช้ในห้องน้ำ เครื่องสำอาง
  • ชุดใส่กลับบ้านทั้งของคุณแม่และเบบี๋ บางโรงพยาบาลจะมีชุดหล่อสวยไว้ให้ก็ไม่ต้องเตรียม
  • ถุงสำรองสำหรับใส่ของเยี่ยมกลับบ้าน

ข้อแนะนำ

ของใช้เด็กราคาค่อนข้างสูง อย่าซื้อเยอะเพราะเด็กช่วงแรกเกิดถึง 1 ขวบโตค่อนข้างเร็ว หลายอย่างที่ซื้อไว้อาจใช้ได้แป๊บเดียวหรือใช้ไม่ทัน ถ้าใครได้มรดกจากพี่หรือเพื่อนถือว่าเป็นเรื่องดีมาก ให้รับไว้เลย นอกจากช่วยเราประหยัดแล้วเค้ายังไม่ต้องทิ้งของด้วย ประหยัดได้ก็ควรประหยัด เก็บเงินไว้ให้เบบี๋วันหน้าค่ะ

การเตรียมของให้ทารกไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของคุณแม่คนหนึ่งที่รอวันลูกน้อยเกิดมา การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องเหนื่อยมากช่วงใกล้คลอดนะคะ





Comment

Ads