Wednesday, August 28, 2013

31 ข้อควรปฏิบัติจาก "คู่รัก" เพื่อเปลี่ยนเป็น "คู่ชีวิต"



คนรัก คือ คนที่เราคิดถึงและอยากอยู่ด้วยมากที่สุด แต่ถ้าเราทำตัวไม่น่าอยู่ด้วย เขาก็จะไม่คิดเหมือนกันกับเราค่ะ

ในฐานะที่เชอรี่เป็นคนหนึ่งที่คบกับเอ็มเป็นแฟน 7 ปีก่อนจะแต่งงาน โดยไม่เจออาถรรพ์เลข 7 และไม่ค่อยมีปัญหาในการใช้ชีวิตแบบคู่รัก เราทะเลาะกันน้อยมากๆ เลยอยากจะแชร์เรื่องราวดีๆ สำหรับคู่รัก เห็นหลายคนรอบตัว มักมีปัญหาหรือทะเลาะกันบ่อยกับแฟน เชอรี่เลยอยากเขียนบล็อกวิธีการอยู่กับคนรักให้ยืนยาวและมีความสุข ด้วย 31 เคล็ดลับง่ายๆ ค่ะ

1. ทำดีต่อกันให้มากที่สุด ถ้าวันหน้าไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เสียใจทีหลัง
2. บอกรักด้วยการกระทำ ดีกว่าด้วยคำพูดเสมอ ทำให้เขารู้ว่าเขาคือคนที่เรารักและคือคนสำคัญสำหรับเรา
3. "บอกรัก" ถึงจะรู้ว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่คนรักกันย่อมอยากได้ยินคำนี้


4. "กอด" ช่วยให้กำลังได้ดีแม้ไม่พูดสักคำ
5. ในวันที่ใครคนหนึ่งเจ็บป่วย ควรดูแล เพราะคุณคือกำลังใจที่ดีของเขา
6. ในวันที่เขาท้อแท้ ควรให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างจนเขารู้สึกดี
7. พูดจาดีๆ ต่อกัน เพราะการพูดไม่ดีเป็นบ่อเกิดของการทะเลาะกัน
8. เอาใจใส่คนรักแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกดี
9. เวลาที่ไม่เข้าใจกันให้รู้จักคำว่าให้อภัย และปรับความเข้าใจเพราะหลังจากปรับความเข้าใจจะทำให้รักและเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น


10. ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่นำเรื่องไม่ดีของแฟนไปเล่าให้คนอื่นฟัง
11. ความรักไม่มีกฎแน่นอนตายตัว ไม่ต้องท่องว่าควรทำอย่างไร ให้ใช้ใจสัมผัส
12. เชื่อใจในคนรัก ไม่ควรระแวงเพราะทำให้คุณเองไม่มีความสุข
13. เข้าใจแต่ไม่ต้องตามใจ ควรเข้าใจคนรักว่าเขาต้องการอะไร ต่างกันกับตามใจ เพราะวันหนึ่งเมื่อเราไม่ตามใจ จะทำให้มีปัญหากัน ทุกอย่างควรอยู่ในคำว่าพอดีและสม่ำเสมอ

บางทีเอ็มก็ชอบขัดใจ แต่เราก็ไม่ทะเลาะกัน

14. แฟนไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ แต่เป็นคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอ
15. ไม่จำเป็นต้องพูดว่า "อย่าทิ้งฉันนะ" เพราะถ้าคนจะไป ยังไงก็ไปอยู่ดี
16. ถ้าคิดว่าเมื่อเจอคนที่ถูกใจกว่าก็ไป คุณจะไม่เจอคนที่ถูกใจจริงๆ และทำให้คนที่รักคุณมากเสียใจ
17. สาวๆ ไม่ควรคิดว่าหนุ่มๆ จะต้องออกเงินให้ทุกครั้งเพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่าทำเขาอึดอัด ถ้าเขาต้องการเลี้ยงตลอดก็ควรหาโอกาสเลี้ยงคืนบ้าง หรือให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทน

ให้ป๋าเลี้ยงตลอดก็ไม่ไหวเน๊อะ ^^"

18. ตอนที่ไม่เข้าใจกันอย่าโทษอีกคนว่าผิด ให้อยู่กับตัวเองสักพัก เมื่อใจเย็นขึ้นแล้วค่อยกลับมาคุยกัน เพราะคุยกันเมื่อโกรธจะทำให้เรายิ่งรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่าย
19. ความรักไม่มีคำว่ากำไร-ขาดทุน ไม่ควรคิดเรื่องได้เปรียบ-เสียเปรียบ แต่ควรคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เราได้ทำอะไรเพื่อคนรัก
20. ไปไหนไปกัน เขาสนุก เราก็สนุกด้วย



21. "ไม่" ละเลยโอกาสพิเศษต่างๆ
22. "ไม่" คาดหวังว่าคนรักจะต้องเก่งและดีพร้อม เพราะไม่มีใครบนโลกที่ดีพร้อมทุกอย่าง
23. "ไม่" เปรียบเทียบแฟนตัวเองกับแฟนคนเก่า หรือแฟนคนอื่น
24. "ไม่" พูดประชดกัน รู้สึกอย่างไรบอกกันตรงๆ พูดประชดไม่ช่วยให้ความรักดีขึ้น
25. "ไม่" ทำตัวน่ารำคาญ 
26. "ไม่" งอนทุกเรื่องในโลกที่สามารถงอนได้
27. "ไม่" ให้ความสำคัญทุกคนยกเว้นแฟนตัวเอง
28. "ไม่" ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด
29. "ไม่" ไม่พึ่งไสยศาสตร์ รักจะราบรื่นและไปได้ดี อยู่ที่เราทำค่ะ
30. "ไม่" เร่งรัดเรื่องแต่งงาน เมื่อฝ่ายชายพร้อมเขาจะขอเราแต่งงานเองค่ะ เพราะถ้าเขายังไม่อยากแต่งแต่ถูกบีบบังคับ อาจทำให้มีปัญหาภายหลังได้

31. หาโอกาสเจอกับครอบครัวอีกฝ่ายบ้างเพราะการเป็นคู่ชีวิตก็ต้องมีคนในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ทุกคู่รักที่คบกันก็หวังว่าจะมีครอบครัวเล็กๆ น่ารักๆ ควรรัก เข้าใจ ดูแลกันเป็นอย่างดี เชอรี่หวังว่าเคล็ดลับเล็กๆ จะมีส่วนช่วยให้ทุกคู่รักเปลี่ยนเป็นคู่ชีวิตเหมือนเชอรี่นะคะ




Tuesday, August 13, 2013

แชร์ประสบการณ์ไปทำสวยครั้งแรกที่วุฒิศักดิ์ คลินิก



ปกติเชอรี่ทุ่มสุดตัวกับค่าครีมบำรุงผิวและวิตามินเยอะมาก เพราะเครียดมานานกับรอยสิวแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น

ช่วงนี้กระแสเจมส์จิมาแรง เห็นโฆษณาวุฒิศักดิ์ลด 30% เจ้าแม่โปรโมชั่นอย่างเชอรี่เลยแอบดูโปรแกรมรักษาหน้า สุดท้ายก็กล้าๆ กลัวๆ ขอลองสักรอบแต่ก็ไม่กล้าทำโปรแกรมแรงๆ เพราะไม่เคยทำอะไรบนหน้ามาก่อน เลยเลือกโปรแกรมเบสิคที่สุด ตรงกับความต้องการ และราคาเหมาะสม

นั่นคือ "Derma White" ที่ในโบรชัวร์บอกว่าช่วย "ลบรอยดำจากสิว ฝ้า กระ ให้จางลง " ราคา 750 บาทต่อครั้ง ไม่แพงด้วย นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่เชอรี่ต้องการ



ตะลุยวุฒิศักดิ์กันเล้ย 

เมื่อข้อมูลแน่นแล้ว ก็พร้อมลุยค่ะ เชอรี่เลือกสาขาที่สะดวกที่สุด คือ สาขาสยามค่ะ สาขานี้อยู่หัวมุมสยาม เป็นตึก 3 ชั้นตรงข้ามมาบุญครอง




ก่อนจะสวยก็ต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวของเราก่อนค่ะ




ครั้งแรกที่เคยเข้ามาในวุฒิศักดิ์ คลินิก

ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าเชอรี่ไม่เคยมาที่วุฒิศักดิ์เลยค่ะ คือเคยได้ยินมาตลอด และก็เห็นในโฆษณา แต่ไม่รู้เลยว่าข้างในคลินิกหน้าตาเป็นยังไง ทีแรกก็แอบกลัวเพราะเข้าใจว่าน่าจะเหมือนรพ. แค่คิดผิดถนัด !!


หลังจากเข้ามาในร้าน คุยกับพนักงานแล้ว ก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ค่ะ ต้องฝากรองเท้าด้วย
มีรองเท้าให้เปลี่ยนก่อนขึ้นไปค่ะ


สาขาที่สยามมี 3 ชั้น !!


แต่ละชั้นตกแต่งหรูหรามากๆ เลยค่ะ นึกว่าอยู่ในโรงแรม
ลบภาพที่เคยคิดก่อนมาไปซะสนิทเลย O_o"




มีที่ให้เราล้างหน้า ล้างมือ ทาแป้ง เสริมสวย
ถ้าผู้ชายกลัวผมเสียทรงก็ไม่ต้องห่วงนะคะ เค้ามี Wax วางไว้ให้ด้วย


ขึ้นมาถึง ระหว่างรอก็มีชา กาแฟ ขนมว่างให้ทานด้วยค่ะ





ข้างในห้อง อันนี้เป็นห้องเล็กนะคะ ถ้ามากับเพื่อน 
มีห้องใหญ่ 2 เตียงให้ด้วยค่ะ จะได้ไม่เหงา



เพราะความสวย ... รอไม่ได้  

ระหว่างทำพนักงานจะบอกตลอดเวลาเลยว่ากำลังจะทำอะไรกับหน้าเรา ช่วยอะไรบ้าง ทำให้รู้สึกว่ามันกำลังเข้าถึงผิวเราจริงๆ

เผื่อใครที่กล้าๆ กลัวๆ เหมือนเชอรี่ก่อนหน้านี้ เลยจะขอเล่าแบบละเอียดเลยนะคะ ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
  • ใช้ครีมทำความสะอาดผิวหน้า นวดๆ ทั่วใบหน้า แล้วใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออก รู้สึกว่าเช็ดได้สะอาดหมดจดเลยค่ะ 
  • โฟมเติมออกซิเจน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและไม่หมองคล้ำ ทิ้งไว้ 3 นาที ฉีดน้ำแร่ แล้วนวดทั่วใบหน้า แล้วใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออก
  • กรดผลไม้ ช่วยผลัดเซล์ผิวเก่า เสริมสร้างเซล์ผิวใหม่ และช่วยให้หน้าเรียบเนียน ขั้นตอนนี้จะทิ้งไว้ 5 นาที จะรู้สึกคันยิบๆ นิดๆ ค่ะ เพราะว่าเป็นกรด แต่ถ้าใครรู้สึกว่าแสบต้องบอกพนักงานทันทีค่ะ เสร็จแล้วใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออก
  • เจล ช่วยกระชับรูขุมขนให้เต่งตึง รู้สึกเย็นๆ สดชื่น นวดเพลินมากๆ กดตามจุดต่างๆ บนใบหน้าด้วย ช่วยให้คลายเครียดได้อีกทาง 


  • คอลลาเจน ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวหน้าตื้นขึ้น ลดริ้วรอยก่อนวัย นวดทั่วๆ หน้า รู้สึกมันซึมเข้าหน้าสุดๆ เลยค่ะ ฟิน ~~
  • Brightening mask ช่วยให้ผิวหน้าสดใสไร้ริวรอย และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง หน้ากากเจล
  • วิตามินซี ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ช่วยให้ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง นี่แหละ!! สิ่งที่เชอรี่ต้องการ
  • ใช้เครื่องนวดให้ความเย็นเพื่อกักเก็บตัวยา 
  • เจล ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย รอยแห้งกร้าน สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เครื่องนวดต่อ แล้วใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออก

  • ทาครีมบำรุงผิว ปกป้องมลภาวะ เผื่อหลังจากทำเสร็จใครจะเติมแป้งแต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ
  • นวดรอบๆ หน้า ต้นคอ ไหล่ซ้าย-ขวา โอยๆๆๆ สบ๊ายยยย
ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็เสร็จแล้วค่ะ รู้สึกว่าหน้านุ่มมาก สิวเสี้ยนหายหมด หน้าเนียน ทาแป้งติดหน้าขึ้น ส่วนเรื่องจุดด่างดำก็ยังใกล้เคียงเดิม เพราะเพิ่งทำครั้งแรกเอง ถ้าจะให้ได้ผล ต้องทำ 5 ครั้ง ระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 1 อาทิตย์

ในราคา 750 บาท แล้วได้รับบริการขนาดนี้ สำหรับเชอรี่ถือว่าโอเคมากเลยค่ะ ราคาพอๆ กับที่เชอรี่ไปนวดตัวแต่ละครั้งเลย แต่การไปทำหน้าที่นี่มันได้ความมั่นใจค่ะ ว่าหน้าเรามีโอกาสกลับมาปิ๊งได้เหมือนตอนสาวๆ


หลังจากที่ไปเสริมความสวยแล้ว วันนี้ไปทำงาน ปรากฏว่าเพื่อนที่ออฟฟิศทักกันเยอะมากจริงๆ นะคะว่าไปทำอะไรมา ทั้งที่ไม่ได้บอกใครเลย อันนี้ต้องบอกว่าสุโค่ยจริงๆ เลยค๊าาาา \(^o^)/





Monday, August 5, 2013

ประสบการณ์ Workshop และชมโรงงานทำขนมจีบซาลาเปาของ 7-Eleven (CP RAM)



อาทิตย์ที่แล้วเชอรี่และเอ็มได้รับเกียรติจากบริษัท CP RAM เชิญไปเยี่ยมชมโรงงานซาลาเปาที่ ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เลยรีบตอบรับทันทีด้วยความยินดีค่ะ






มาถึงโรงงานซาลาเปาทั้งที ทาง CP ได้สอนการปั้นซาลาเปาให้เราทุกคนได้ดูกัน


นวดแป้งให้เป็นแผ่น จับจีบซาลาเปา ต้องจับให้ดีไม่งั้นไส้จะทะลัก ยากใช้ได้เลยค่ะ ^^"




Workshop ที่ 1 : ปั้นซาลาเปา วันนี้เชอรี่และเอ็มใส่เสื้อ iPhone <3 Android ของ MacThai แน่นอนค่ะ วันนี้เราปั้นซาลาเปารูป Apple กับหุ่น Android

เสื้อคู่ สู้ตาย ^^

สีนี้เอาไว้ปั้นเป็นแอปเปิ้ลเน๊อะๆ

ภาพมันฟ้องว่ามีคนอู้นี่นา

จับจีบซาลาเปามันยากจังเลยเน๊อะตัวเอง



ใครๆ ก็บอกว่า Android หน้าตาเหมือน Angry Bird -_-"


เชอรี่เป็นคนหนึ่งที่ชอบซาลาเปาของ 7-11 มาก โดยเฉพาะไส้หมูแดง บิ๊กเปาเลย กินเฉลี่ยแทบจะทุกอาทิตย์เลย ถึงแม้ว่าจะเห็นว่ามันเป็นอาหารแช่แข็งที่เราไม่รู้ว่าใส่สารกันบูดหรือเปล่า??

หลังจากทัวร์โรงงานทำขนมจีบ ซาลาเปาแล้ว ทำให้รู้ว่า ...
  • อาหารแช่แข็งทุกอย่าง "ไม่ใช้สารกันบูด" แต่ใช้วิธีการช็อตด้วยความเย็นทันทีที่อุณหภูมิ -20 องศา เพื่อให้เก็บได้นานถึง 2 ปีเลย
  • น้ำมันที่ใช้ทอดมีการตรวจวัดค่าทุกครั้ง เมื่อถึงค่าที่ใช้งานไม่ได้แล้วก็เปลี่ยนทันที
  • โรงงาน, อุปกรณ์ หรือแม้แต่คนงานก็สะอาดมาก มีการตรวจว่าถ้าไม่สบาย หรือแม้ท้องเสียก็จะเปลี่ยนไปทำงานอื่นจนกว่าจะหายเป็นปกติ 
  • แรงงานส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (พม่าและเขมร) เพราะแรงงานไทยหายาก จริงมีล่ามในสถานที่ทำงานแต่ละจุดด้วย
  • ตั้งแต่ทำไส้ ห่อเป็นซาลาเปา ขนมจีบ ใช้ทั้งงานแรงคนและเครื่องจักร และขั้นตอนการปั้นซาลาและขนมจีบใช้เครื่อง เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจมาก
  • ซาลาเปาแรบบิทในเซเว่นคือเค้าปั้นวงกลมก่อน แล้วค่อยเอามือบีบจนเป็นทรงกระต่าย สุดท้ายเอามีดตัดเป็นหู
  • ไส้ขนมจีบ ซาลาเปา ผสมกันที่โรงงานกันสดๆ โดยมีคนคอยเติมส่วนผสมและมีเครื่องจักรหมุนในอุณหภูมิสูงเพื่อให้เข้าเนื้อ
  • ใช้ระบบ Just in time เพื่อให้อาหารส่งตรงถึงมือเราได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างเดินดูโรงงานค่ะ ต้องมองผ่านช่องนี้ลงไป

หลังจากเยี่ยมโรงโรงงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้โชว์ฝีมือการอาหารแล้วค่ะ Workshop ที่ 2 : ให้นำอาหารแช่แข็งของซีพี มาดัดแปลงเป็นเมนูอะไรก็ได้ให้น่าทานยิ่งขึ้น







ผักและเครื่องปรุงมากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะใช้อะไรบ้าง

ตอนแรกๆ เราก็ยังสามัคคีกันอยู่

สักพักเอ็มก็บอกเชอรี่ว่าทำเมนูอะไรมาก็ได้ ผัดๆ มาเลย -_-"

เชอรี่เลยเลือกสาหร่ายและเกี๊ยวกุ้งมาผัดมักกะโรนี ส่วนเอ็มก็ทำด่าน Angry Bird เชอรี่กับเอ็มเหมือนเป็นคนละเมนู

 เหมือนเรากำลังทำคนละเมนู







ออกมาเป็น CP RAM I'mgry Bird

บล็อกเกอร์ทริปนี้พร้อมทีม CP RAM ค่ะ

กิจกรรมวันนี้สนุกมากค่ะ ได้ทั้งความรู้และของติดไม้ติดมือกลับบ้าน เป็นของที่ระลึก ต้องขอบคุณ CP RAM อีกครั้งนะคะ ที่ให้เชอรี่และเอ็มเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้







Comment

Ads