นับเป็นหนึ่งเรื่องที่ดีๆเมื่อเรามาเที่ยวแล้วได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โรงแรมที่เรานอนไม่มีอาหารเช้าให้ วันนี้เราเลยตื่นเที่ยงเลย อาบน้ำ แต่งตัวออกจากโรงแรมก็บ่ายโมงพอดี ^^
ด้วยความที่เมื่อวานลองไปทานร้านอาหารแนะนำแล้วไม่อร่อยอย่างที่คาดหวังไว้ เลยต้องมองหาร้านใหม่ใกล้ๆโรงแรมแทนค่ะ โดยเทคนิคหาีร้านอร่อยของเชอรี่ก็ไม่ยากเลยค่ะ แค่มองหาร้านที่ลูกค้าเยอะๆ ซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าอร่อย ^^
เริ่มจากออกจากหน้าโรงแรม Ole Tai Sam Un Hotel, Rua da Telicidade โรงแรมที่เชอรี่พัก ออกไปทางซ้ายเลยค่ะ จะเจอร้านของฝาก ร้านขนมมากมาย รวมถึงร้านอาหารที่เป็นภาษาจีนล้วนๆ อ่านไม่ออกเลย และที่สำคัญ ไม่มีคน เลยต้องเดินผ่านไปก่อน
ร่างกายขาดความหวานมาหลายวัน เมื่อเดินมาเจอร้านขายผลไม้สด ภายในร้านมีผลไม้ใส่แก้ว ที่เต็มไปด้วยภาษาจีน อ่านไม่ออกเหมือนเดิม มองไปแล้วมีสตอเบอรี่ดูสดมาก ลูกใหญ่ราคา 25 MOP ชี้ๆบอกว่าเอาอันนี้ พนักงานหยิบให้แต่ไม่ยอมปั่น คุยกันไม่รู้เรื่อง สุดท้ายมีนางฟ้ามาช่วยเป็นล่ามให้
ได้มาแล้วค่ะ เป็นสตอเบอรี่ปั่นล้วนๆเลยแต่หอมมาก แนะนำให้ทานแบบสดใส่แก้วจะดีกว่า ^^"
เริ่มเดินทางต่อค่ะ คราวนี้เป็นทางค่อนข้างเงียบกว่าเดิมอีก แต่ดูคลาสสิคดี เดินได้เรื่อยๆ ไม่ร้อนเลย
เดินตรงไปไม่ไกลเจอร้านนี้ค่ะ คนต่อคิวเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่าขายอะไร คนขายพูดอังกฤษไม่ได้ เราก็อ่านภาษาจีนไม่ออก รูปภาพก็ไม่มี ดูท่าทางแล้วน่าจะอร่อย ส่งเอ็มไปต่อคิวก่อนแล้วกัน
แล้วเชอรี่ก็เดินสำรวจร้านอาหารต่อ เจออีกหลายร้านเลย สำรวจไว้เผื่อวันพรุ่งนี้ เจอหลายร้านน่าสนใจเลย
ร้านบะหมี่เกี๊ยว ลูกค้าในร้านเยอะมาก
ร้านอาหารทะเล แต่ในร้านมีแค่ 1 โต๊ะ
ร้านอาหารจีน มีหูฉลามด้วย มีหลายโต๊ะเหมือนกัน แต่ร้านนั้นน่าจะดีที่สุด
ร้านนี้คนแน่นร้านเลยค่ะ มี wi-fi ฟรีด้วย สรุปว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะมาฝากท้องที่ร้านนี้
สงสัยเชอรี่จะสำรวจร้านนานไปค่ะ ถึงคิวแล้ว เอ็มเลยชี้ไปที่เมนูที่มีเลข 40 MOP ลุ้นกันไม่นานอาหารเช้าเราก็มาเสิร์ฟแล้ว มันคือ หูฉลามที่ใส่เยื่อไผ่และไก่ฉีกร้อนๆเลย ทานแล้วอุ่นท้องมาก อร่อยมากด้วย แป๊บเดียวเหลือแต่ช้อนเลย :P
หูฉลามของเชอรี่กับเอ็ม
ชามนี้เป็นของแก๊งเกาหลีที่นั่งโต๊ะเดียวกัน ชามประมาณ 4 คนอิ่ม เลยขอถ่ายรูปด้วย ราคา 280 MOP ค่ะ
เมนูร้านหูฉลามค่ะ เอามาฝาก เผื่อใครจะอ่านออก
จากร้านหูฉลามไม่ไกลจากเซนาโด้ สแควร์ค่ะ ข้ามถนนก็เจอแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์ค่ะ คนเยอะมากๆ
เต็มไปด้วยผู้คนทุกมุม
สำนักแห่งควาเมตตา
ข้างในสำนักแห่งควาเมตตา
เจอแล้วค่ะ ร้าน Smartone ที่เราตามหา แวะซื้อซิมสำหรับเล่นเน็ตและไว้เผื่อเราหลงกัน จะได้โทรหากันได้ ราคาไม่แพงเลย ค่าซิม 10 MOP และสำหรับใช้โทรออกหรือเล่น Internet อีก 40 MOP สรุปคือซื้อซิมใหม่ราคาไม่เกิน 200 บาทค่ะ เชอรี่ใช้ 3 วันเหลือๆเลย แนะนำให้ซื้อกับร้านร้านนี้เพราะที่เดินหาพบว่าราคาสูงถึง 100 MOP เลย และพนักงานยังพอพูดภาษาอังกฤษได้บ้างด้วย
ข้างร้าน Smartone มีคิวต่อซื้ออะไรสักอย่าง เลยเข้าไปสืบดู
ปรากฏว่าเป็นร้านขายบะหมี่ค่ะ น่าจะมีดีที่ลูกชิ้น มีที่นั่งให้ด้วยนะคะ
นารายาเรามาไกลถึงที่นี่เลย
เป้าหมายต่อไปคือซากโบสถ์เซนต์ปอล การเดินทางไม่ยากค่ะ จากเซนาโด้ สแควร์ เดินไปทางที่มีคนเยอะๆ ไปทางที่เบียดๆ แสดงว่าเราไม่หลงทางค่ะ
ทางลอยไปซากโบสถ์เซนต์ปอล เบียดขนาดนี้จนแทบไม่ต้องเดินเลย ^^"
ถึงหน้าซากโบสถ์เซนต์ปอลแล้ว แต่คนเยอะมากๆ เจอสามล้อถีบให้ถ่ายรูปฟรีด้วย มีหลายแบบหลายคันเลย ต้องขอซะหน่อย
ซิ่งเลยค๊าา ...
บรรยากาศหน้าซากโบสถ์เซนต์ปอล คนเยอะทุกมุม
มีวัยรุ่นเต้นโชว์ด้วย เพลงสากลแต่ให้ความรู้สึกจีนจ๋ามาก
ข้างหลังซากโบสถ์เซนต์ปอลเป็นพิพิธภัณฑ์ (เข้าฟรี) แนะนำให้เข้าชม
ทาร์ตไข่หน้าซากโบสถ์เซนต์ปอล รสชาติอร่อย แต่แป้งตรงก้นเยอะไปหน่อย ^^"
เป้าหมายต่อไปของเราคือวัดอาม่า การเดินทางเราจะต้องเดินย้อนไปหน้าเซนาโด้ สแควร์ แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไป 1 แยกไฟแดงแล้วข้ามถนน ป้ายรถเมล์อยู่หน้า Macau Sqaure
อ่านป้ายเช่นเดิมค่ะ ว่าเราจะต้องเดินทางด้วยรถเมล์สายอะไร
เจอแล้วค่ะ สาย 7 สุดสายเลย ค่าโดยสารคนละ 3.2 MOP
ถึงแ้ล้วค่ะ วัดอาม่า
ภายในวัดมีคนไหว้ขอพรเยอะมาก ควันธูปโขมงเลย
เมื่อไหว้พระ ขอพร เรียบร้อยแล้ว ก็จะไปที่ที่เชอรี่อยากไปมาก คือ Macau Tower ค่ะ ดูแผนที่รถแล้วสุดสายทุกคันเลย เราไม่อยากนั่งรถย้อนกลับไปที่เดิม เลยถามคนขายของแถวนั้น เค้าบอกว่าเราสามารถเดินไปได้ค่ะ ประมาณ 15 นาที!!
ลองเดินออกจากด้านซ้ายของวัด
เดินจนสุดทางเลี้ยวขวา
เจอทางแยกแล้วเลี้ยวซ้าย
ข้างหน้ามีป้ายรถเมล์ค่ะ รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที
ทำหน้าอาลัยอาวรณ์ใส่ในรถเมล์สาย 26 ผู้โดยสารใจดีถามว่าจะไปไหน พอบอกว่า Macau Tower เค้าบอกว่าให้ขึ้นรถมา รถวิ่งไปเกือบๆ 2 กิโลเลยค่ะ ถ้าเดินก็ลิ้นห้อยเลย
โชคดีมากค่ะ ผู้โดยสารใจดีบอกว่าให้ลงป้ายตรงนี้ แล้วเดินไปต่อ วิวตรงนี้สวยมาก แวะถ่ายรูปกันซะเลย
มองไกลๆแบบนี้ประมาณ 1 กิโลเห็นจะได้ แต่ทางเลียบริมน้ำ เดินชิลๆ ได้ภาพสวยๆด้วย
และแล้วก็มาถึง Macau Tower ที่รอมานาน ไม่รอช้า รีบเข้าไปกันเล้ยยย
ราคาค่าเข้าชมคนละ 130 MOP
มองลงข้างล่างจากชั้น 58 เสียวไส้สุดๆ > <"
ตรงนี้ทำขาสั่นเลยค่ะ คิดว่าถ้ามันแตกนะ หึ หึ ^^!
อยู่ดีๆก็มีคนลอยผ่านหน้าไป พร้อมกับเสียงกรี๊ดสนั่นตึก ต้องรีบตามไปดูแล้ว
ขึ้นลิฟท์ขึ้นมาชั้น 61 มีหลายแพ็คเกจให้นักท่องเที่ยวเลือกกันตามใจชอบ จะกระโดดหมู่ โดดคู่ โดดเดียว จะ Skywalk หรือ Skyjump แค่อ่านป้ายก็ใจเต้นตุบๆแล้ว
Skywalk
Skyjump
ชมวิวสวยๆก็มีความสุขแล้วค่ะ
เมื่อสูดบรรยากาศดีๆจนเต็มปอดแล้ว เราก็นั่งรถฟรีที่หน้าตึก Macau Tower ไปที่ City of Dreams คาสิโนใหญ่ฝั่งเกาะไทปากันค่ะ
รถบริการฟรีของ City of Dreams
เมื่อสุดท้ายที่ทานคือหูฉลาม แน่นอนค่ะ ตอนนี้หมดพลังและท้องร้องจนไม่สามารถจะชิลต่อได้แล้ว เลยแวะทานมื้อเย็นที่ Food Paradise ชั้น 2 ของ City of Dreams เนื่องจากเราไม่ได้เตรียมตัวก่อนว่าจะมาทานที่นี่ วิธีที่ดีที่สุดคือ "สั่งเมนูแนะนำ"
- เนื้อห่าน (Roasted Goose) 98 HKD
- ข้าวหน้าปลาไหล (Teriyaki Eel w/ rice) 98 HKD
- ถั่วแดง (Red bean in iced milk) 22 HKD
- ไฮเนเก้น 1 ขวด ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่รสชาติดีที่สุดในทุกอย่างที่สั่งค่ะ
ฉลองกันหน่อย
แสงสีสวยๆของ City of Dreams
พร้อมเข้าไปเยี่ยมชม Casino ยังค่ะ ^^
โชว์ที่ The Venetian
มาดึกเกิน ไม่มีเรือ Gondola แล้ว
เปลี่ยนใจไปเสี่ยงโชคดีกว่า วันนี้ดวงดีคับ เฮง เฮง เฮง
รถเมล์ในมาเก๊าส่วนใหญ่จะวิ่งรอบสุดท้ายเวลาเที่ยงคืน กว่าเชอรี่จะออกจากคาสิโนก็เที่ยงคืนครั้งแล้ว ไม่มีรถข้ามไปฝั่งมาเก๊าได้เลย ลองเดินไปที่ City of Dreamsโชคดีที่พนักงานใจดีมาก บอกว่าให้รอก่อน เดี๋ยวจะมีรถพาไปส่งท่าเรือ ถ้านั่ง Taxi ต้องหมดตัวแน่ๆ ^^
รถพามาส่งที่นี่ค่ะ Outer Harbour Ferry Terminal
ตอนนี้อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 5 กิโลเองค่ะ เรา 2 คนตัดสินใจนั่ง Taxi ไปคาสิโนเพราะเรารู้ว่าวันนี้ "เราจะรวย เราจะรวย" แล้วเราก็รวย เล่น 2 ที่ได้เงิน 280 HKD กลับโรงแรมตี 3 ครึ่งอย่างสบายใจ <3
Tweet