Wednesday, April 24, 2013

ChillHongkong วันที่ 3 : ช้อปปิ้งส่งท้ายฮ่องกง, ชมมาเก๊ายามค่ำคืน

เมื่อคืนเราเดินส่งท้ายดึกไปหน่อย วันนี้เราตื่น 10.20 น. เลยค๊า แปรงฟันรีบลงไปห้องอาหารทันเวลาพอดีเลย ^^"

อากาศวันนี้ 19 องศา อากาศเย็นกำลังสบาย เลยเลือกทานอาหารในส่วน Outdoor แบบชิลๆ

มันชิลจริงๆนะครับ ^^

กว่าจะทานเสร็จก็ใกล้เวลา Check out แล้ว กระเป๋าก็ยังไม่เก็บ น้ำก็ยังไม่อาบ ได้แต่เร่งๆๆๆ และเมื่อ 12.00 น. ก็มี Reception โทรมาถามด้วยเสียงสุภาพว่าเราประสงค์จะอยู่ต่ออีกคืนหรือเปล่า ประเทศเค้าคงตรงเวลามาก เห็นถึงเวลาแล้วเรายังไม่เห็นเราเลยโทรมาถามค่ะ

แฮ่กๆๆ ทำทุกอย่างด้วยความเร็วสูง เสร็จทันเวลาพอดี ^^

เมื่อ Check out แล้วก็ไม่มีห้องให้เก็บของค่ะ เลยต้องใช้บริการับฝากกระเป๋าของโรงแรม ดูไม่น่ากลัวเลยเพราะมีห้องเก็บกระเป๋าโดยเฉพาะ (แต่วันนี้แขกคงจะเยอะจริงๆ กระเป๋าล้นออกมาข้างนอก) เราจะได้รับใบรับฝากกระเป๋าที่เขียนด้วยว่าเราฝากทั้งหมดกี่ใบ และที่กระเป๋าที่เราฝากจะมีป้ายห้อยไว้ว่านี่คือใบที่ 1/3, 2/3 และ 3/3



เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็พร้อมลุยต่อค่ะ แผนวันนี้ไม่มีอะไรเลยค่ะ นอกจากไปซื้อเสื้อ Bossini ที่ตั้งใจไว้ เป็นยี่ห้อที่เชอรี่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องซื้อให้ได้ เพราะแบบสวยกว่าบ้านเราแล้วก็ราคาถูกมาก ช่วงนี้ไม่ค่อยมีโปรโมชั่น แต่เน้นของแถมค่ะ ช่วงที่เชอรี่ไปเป็นโปรซื้อครบ 600 HKD ได้ร่ม Winnie the Pooh 1 อัน ไม่ยากค่ะ ซื้อ 1,000 เลย 55

ได้ร่มมาแล้ว เห่อเสื้อใหม่ใส่ถ่ายรูปซะเลย ชอบง๊า ^O^

เที่ยวตามสไตล์เชอรี่กับเอ็มคือการเที่ยวแบบอิสระ ไม่มีเวลาแน่นอน วันนี้เราต้องข้ามไปมาเก๊าแต่บ่าย 2 แล้วเรายังไม่รู้ว่าจะไปกี่โมง มีแต่ความรู้สึกอยากอยู่ต่อ ก็เลยเดินช้อปปิ้งถนนนาธานเมื่อยก็ไปนั่งกินแมคตามประสา เข้าไปหลายร้านเช่น H&M หรือ Uniqlo พบว่ามีแบบมากกว่าแต่ราคาเท่าๆกันหรือสูงกว่านิดหน่อย ช้อปไม่สนุกค่ะ ไปหาอะไรอร่อยๆทานดีกว่า

ทริปนี้ตั้งใจว่าจะทานร้านไม่ซ้ำกันเพื่อจะได้ลองร้านใหม่ รสชาติใหม่ เลยตัดสินใจไปร้าน Lin Kee Hotpot บนถนน Chatham South กินติ่มซำตามที่คนอื่นๆเคยรีวิวและบอกว่าอร่อยและไม่แพง



เราสั่งมาหลายอย่างเพราะอยากจะกินตุนไว้เผื่ออาหารที่มาเก๊าจะไม่อร่อยตามที่เคยอ่านเจอ พบว่าอาหารร้านนี้ไม่อร่อยอย่างที่คาดหวังไว้ แต่ไม่ถึงกับไม่อร่อยนะคะ พอใช้ได้ ถ้าให้แนะนำควรไปทานร้าน Sweet Dynasty ถนน Canton ดีกว่า ^^


เพื่อความปลอดภัยโปรดมองซ้าย-ขวาก่อนเลี้ยว


สมควรแก่เวลาที่เราจะต้องไปมาเก๊าแล้วค่ะ ก่อนกลับเราต้องแวะไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรมแล้วลง MTR ไปสถานี Sheung Wan เพื่อไป Sheung Wan Ferry Terminal นั่งเรือเฟอร์รี่ไปมาเก๊า

เมื่อถึง MTR Sheung Wan แล้วจะต้องคืนบัตร Octopus ที่เราซื้อเมื่อวันก่อนในราคาใบละ 150 HKD มูลค่าในบัตรเหลือ (14 HKD + มัดจำ 50 HKD) หักค่าธรรมเนียม 9 HKD เชอรี่ได้คืน 55 HKD สรุปใช้ไป 95 HKD หรือประมาณ 370 บาท เป็นค่าเดินทางสำหรับ 3 วันถูกมากๆ

ไม่แนะนำให้ซื้อบัตรนักท่องเที่ยวรายวัน 55 HKD นะคะ



ไปตะลุยมาเก๊ากันเถอะ !! 

ถึง Sheung Wan Ferry Terminal ในเวลาประมาณ 17.15 น. ก็รีบไปดูบอร์ดแสดงเวลาการเดินเรือของแต่ละบริษัทว่ามีรอบไหนบ้าง เราควรซื้อรอบที่เร็วที่สุดค่ะ เพราะท่าขึ้นเรืออยู่ไม่ไกลและจะได้ไม่ต้องรอนาน

ตารางแสดงเวลาเดินเรือ

ช่องซื้อตั๋วเรือ

บริษัทที่มีรอบเรือเร็วที่สุดคือ Turbo Jet เวลา 17.30 น. เราไม่ต้องพูดอะไร วิ่งค่ะ

แอบบ่นพนักงงานแล้วว่าแกล้งให้ที่นั่งไม่ติดกันได้ไง ไปนั่งแล้วถึงรู้ว่าเป็นเบาะ 2 ที่นั่งติดกัน ^^"

ตามมาทางนี้เลยค่ะ ห้ามช้า เดี๋ยวตกเรือ เจอป้าย West Bridge แล้วเข้าไปเลย

วิ่งค่ะ เราต้องไปผ่าน ตม. ในนี้อีกนะคะ

หลังผ่าน ตม. ทุกคนวิ่งแล้วค่ะ กลัวตกเรือ อยากจะกระโดดตรงนี้เลย > <"

ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก ตอนนี้เรานั่งอยู่ในเรือแล้ว เวลา 17.30 น. ตามเวลาเป๊บเลย แฮ่กๆๆๆ

ที่นั่งอยู่ชั้นบน เรือชั้นบน โครงเครง ชวนเมาเรือมาก

เรือลำนี้แหละที่พาเรามาส่งมาเก๊า

เราต้องกรอกใบ Immigration เพื่อเข้าประเทศมาเก๊าอีกรอบค่ะ เป็นใบใหม่สามารถหยิบใบนี้ได้บนเรือเพื่อกรอกล่วงหน้าหรือว่ามากรอกที่หน้า ตม. เลยก็ได้ ตม. ที่นี่มีช่องบริการเยอะแต่ว่าคนเดินทางไม่เยอะมากค่ะ เลยทำให้ไม่ต้องรอนาน

ภายในท่าเรือ Macau Ferry Terminal 

เมื่อตรวจ ตม. ออกมาแล้ว ด้วยความที่อ่านรีวิวไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องไปขอแผนที่มาเก๊าและถามทางกับเจ้าหน้าที่ โรงแรมที่เชอรี่พักอยู่ไม่ไกลจากเซนาโด้ แสควร์ เลยไปไม่ยากเลยค่ะ นั่งรถเมล์สาย 3A ราคาคนละ 3.2 MOP แน่นอนค่ะ เราไม่มีเหรียญพอดีกับค่าโดยสารและเค้าก็ไม่ทอนซะด้วย เลยจำได้ต้องหยอดไป 10 MOP T_T

คนต่อคิวเพื่อนั่ง Taxi มีวินัยมาก

นั่งรถเมล์ไม่นานก็ถึงโรงแรมแล้ว คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Ole Tai Sam Un เป็นโรงแรมน่ารักๆ สะอาด ทำเลดี ราคาไม่แพง พนักงานบริการดีมาก ประทับใจอีกแล้วค่ะ ^^


เมื่อพักแข้งพักขาเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมลุยต่อทันที ที่แรกที่เราจะไปคือเซนาโด้ แสควร์ เพราะอยู่ใกล้ที่พักที่สุดแล้ว และมีร้านอาหารที่ใครๆต่างรีวิวว่าอร่อยมาก พลาดไม่ได้ เลยจะทานมื้อแรกเลย เผื่ออร่อยจะได้ไปฝากท้องทุกวัน ^^

ระหว่างร้านขายลูกชิ้นมีคนมุงซื้อเยอะมากๆ แต่เรามีเป้าหมายชัดเจน ไม่แวะค่ะ



ถึงแล้วค่ะ เซนาโด้ แสควร์

เซนาโด้ แสควร์ ประมาณสยามบ้านเรา เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่รวมร้านอาหารมากมาย ขอเดินสำรวจหน่อยแล้วกันค่ะ มีแบรนด์เยอะมาก ไม่เจอห้าง ทุกแบรนด์เป็นร้านแยกออกมาต่างหาก เช่น Bossini, Giordano, Esprit Outlet, The Body Shop, Sasa, Estee Lauder, SKII, Swarovski, McDonald's, Starbucks, SmartTone ขายซิมโทรศัพท์ แม้แต่ร้านนารายาของบ้านเรา

เห็นสีเขียวๆ ด้านขวาก็ยิ้มออกแล้ว ^O^


เจอแล้วค่ะ ร้านทาร์ตไข่แสนอร่อย (ชอบร้านนี้กว่าร้านหน้าซากโบสถ์เซนต์ปอล)

น่ากิน+หิวมาก ขอหม่ำทันทีเลย อร่อยมาก

เมื่อสำรวจเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็นค่ะ ตามตารางเราจะไปทานก็กันที่ร้าน Wong Chi Kei ร้านนี้หาไม่ยากเลย เดินเข้ามาเซนาโด้นิดเดียวก็เจอเลย ร้านอยู่ด้านซ้ายก่อนถึง Starbucks จุดสังเกตง่ายๆเลย คือ คนต่อคิวเข้าร้านเยอะมาก (เห็นแบบนี้ยิ่งมีความหวังสุดๆ เรารอดตายแล้ว)

เมนูที่ทุกคนบอกว่าพลาดไม่ได้ คือ บะหมี่ไข่เกี๊ยวกุ้ง สั่งทันทีเลย และอยากชิมบะหมี่ผัดเนื้อ พร้อมคะน้าฮ่องกงอีกจาน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสั่งน้ำอะไรดีเลยขอสั่งเท่านี้ก่อน

เมื่ออาหารมารีบหม่ำเลย เพราะความตั้งใจสูง+หิว แล้วเราทั้ง 2 ได้แต่มองหน้ากันแปลกๆ แล้วก็บอกว่าไม่สั่งน้ำเพิ่มแล้วกันเน๊อะ เดี๋ยวเราไปกิน Starbucks กันดีกว่า อีกทั้งมองไปเห็นพนักงานชงดูแล้วไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ด้วย


  • บะหมี่เส้นค่อนข้างแข็ง เกี๊ยวไม่สดเท่าที่ฮ่องกง 
  • บะหมี่ผัดเนื้อเส้นเยอะมาก เนื้อน้อย รสชาติจืด มันและเลี่ยน
  • คะน้าฮ่องกงราดซอส นึกว่าซอสจะอร่อยเหมือนร้านอื่นเลยเทหมดถ้วยเลยค๊า ปรากฏว่าเค็มปี๋ไม่มีรสชาติอื่นเลย ทานไม่ไหว

คิดถึงอาหารอร่อยๆที่ฮ่องกง T_T 

ภายในชั้น 2 ของร้าน

ตอนนี้เวลา 4 ทุ่ม อากาศหนาวและมีหมอกเยอะค่ะ แต่เรามีความประสงค์จะท่องราตรีไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนดกลับโรงแรม เราเดินตรงไปเรื่อยๆจากเซนาโด้ แสควร์ เพื่อชมแสง สี ยามค่ำคืนของเกาะมาเก๊า

ถนนไม่ค่อยมีรถ แต่ทุกคันที่ขับซิ่งสุดๆเลย

คาสิโนแรกที่เราเดินผ่าน สีสันสวยจริง

ต่อมาก็เป็น Grand Lisboa หมอกเยอะมากๆ

สามล้อนั่งชมเมือง สำหรับคนที่อยากชมเมืองแบบชิลๆ

มองไปทางไหนก็สวยไปหมด

ถึงแล้วค่ะ คาสิโน จะแวะซ้ายหรือขวาก่อนดี > <"

นั่งจีบกันอยู่ริมน้ำชมวิวสะพาน มาเก๊า ทาวเวอร์ กับอากาศเย็นๆโรแมนติกสุดๆเลย

มาแวะ Louis Vuitton ที่ Wynn Macau เที่ยงคืนแล้วร้านยังเปิดบริการ

ขณะนี้เวลาประมาณตี 2 เราเดินครบทุกจุดที่เราต้องการแล้ว
ตอนนี้เราอยู่ห่างจากจากโรงแรมประมาณ 3 กิโล เดี๋ยวเราจะเดินกลับกัน อ๊ากกกกกก > <"

กลับมาถึงโรงแรมอีกครั้งด้วยสภาพหมดแรงสุดๆ ขาจะหลุดให้ได้ แต่สามีที่น่ารักก็ ...
นวดเท้าให้จนดีขึ้นเลย น่ารักที่สุด <3

นอนหลับฝันดีที่มาเก๊านะคะ ^^



Comment

Ads