Wednesday, April 3, 2013

ChillHongkong วันที่ 1 : ข้ามฟากจากมาเก๊า, บุก Apple Store, พักโรงแรม Xi Hotel สุขสุดๆ



เมื่อปีที่แล้ว Air Asia มีโปรโมชั่น แฟนพันธุ์แท้ Low cost อย่างเชอรี่ไม่รีรอที่จะจัดสักทริปค่ะ ซึ่งก็ไม่พ้นมาเก๊าเพราะเป็นประเทศที่ไม่เคยไป และอยากไปนานแล้ว  จึงใช้ความพยายามสู้กับจนได้ตั๋วไป-กลับ 2 คนราคา 5,700 บาท (ไม่รวมค่าเลือกที่นั่งและโหลดกระเป๋า) ที่ยังไม่ซื้อ 2 อย่างนี้เพราะถ้าเราไม่สามารถเดินทาง เราจะไม่สามารถขอเงินคืนได้ค่ะ

ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ เชอรี่ค่อยซื้อน้ำหนักกระเป๋าขาไป 15 กก. (370 บาท) ขากลับ 25 กก. (525 บาท) ทุกอย่างกะไว้พอดีเพราะเดินทางด้วย Air Asia หลายครั้งแล้ว เราไม่ซื้อทิ้งขว้างค่ะ ส่วนที่นั่งเราก็ไม่เลือก เพราะถ้าเรา Check-in พร้อมกัน เราจะได้ที่นั่งติดกันอยู่แล้ว สรุปค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับคนละ 3,300 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว)

วันแรก
ตั๋วเครื่องบินเวลา 7 โมงเช้า ปกติเดินทางต่างประเทศเชอรี่จะเผื่อเวลาไว้ 3 ชั่วโมง เผื่อมีอะไรกระทันหัน เชอรี่ถึงดอนเมืองเวลาตี 4 นิดๆค่ะ เมือถึงเคาน์เตอร์  Air Asia พบว่าคนต่อคิวรอเยอะมากแล้ว จนไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้คือตี 4 วันพุธ



บนเครื่องบินเค้าแจกใบ Immigration ให้เรากรอกล่วงหน้าบนเครื่องจะได้ไม่เสียเวลาตอนไปถึงนะคะ ที่เอามาให้ดูเพราะภาษาที่ใช้เราอาจไม่คุ้น และจะได้เห็นบ่อยๆในมาเก๊าค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราในช่อง TYPE ให้เติมคำว่า TRAVEL นะคะ



เดินทางถึงมาเก๊าเวลา 10.35 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งมาเก๊าและฮ่องกงเวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง (จริงๆแล้วบ้านเราตอนนี้แค่ 9 โมงครึ่งเอง) อากาศก็กำลังดีประมาณ 20-21 องศา


สนามบินเล็กๆค่ะ เราเดินจากตรงนี้เข้าตัวอาคารได้เลย

ขามา 2 คนใช้กระเป๋าแค่ 1 ใบค่ะ แต่มีลูกอีก 2 ใบอยู่ในนี้ ^^


ถึงจะเป็นสนามบินเล็กๆ แต่ก็ชอบมากค่ะ เพราะมี Wifi ให้เราเล่นฟรีๆเลย ตรวจคนเข้าเมืองเสร็จก็รีบหาทางไปท่าเรือเพื่อข้ามไปฮ่องกงอย่างไม่รีรอ แวะถามทางเดินไปท่าเรือที่ Macau Tourist Information ดูทางแล้วเราคงเดินไม่ไหว เลยตัดสินใจนั่ง Taxi ไปท่าเรือใกล้ๆค่ะ คือ Taipa Ferry Terminal แต่ Taxi จะพูด-ฟัง ภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ถูกปฏิเสธหลายคันเหมือนกัน สุดท้าย พูดคำเดียวว่า "Ferry" ได้ผลค่ะ

Taxi มิเตอร์เริ่มที่ 15 MOP มิเตอร์ขยับไปที่ 22 MOP บวกเพิ่มสำหรับค่าบริการอีก 5 MOP และค่ากระเป๋าเดินทางใบละ 3 MOP สรุปว่าจากสนามบินไปท่าเรือเฟอร์รี่ราคา 30 MOP ค่ะ ไม่ถึง 120 บาท ไม่เหนื่อย ไม่หลงทาง ไม่เสียเวลาค่ะ

แผนที่สนามบินมาเก๊าและท่าเรือเฟอร์รี่ค่ะ


ท่าเรือนี้มีเรือ 2 เจ้าค่ะ คือ Turbo Jet (มีไป China Ferry Terminal แถว Tsim Sha Tsui 1 รอบ เวลา 17.00 น.) และ Cotai Jet ไป Sheung Wan Ferry Terminal (MTR Sheung Wan) แต่ช่วงเวลาเดินทางเยอะมาก เลยเดินทางด้วย Cotai Jet ราคาคนละ 141 HKD ค่ะ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงก็ถึงฮ่องกงแล้ว

ได้ตํ๋วเรือแล้วค่ะ ลุยเลย!!

ที่นั่งมากมายสำหรับรอเรือมา

ที่ท่าเรือมี ตม. ขาออกด้วย เราจะต้องตรวจ Passport และ ใบ Immigration อีกรอบเพื่อออกจากประเทศมาเก๊า และกรอกใบ Immigration ขาเข้าออกประเทศฮ่องกงด้วยเมื่อถึงท่าเรือที่ฮ่องกง

ภายในเรือ Cotai Jet กว้างขวาง นั่งสบายค่ะ 

เรือ Cotai Jet ที่เรานั่งพาเรามาส่งที่ Sheung Wan Ferry Terminal ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ชั้นใต้ดินเป็น MTR Sheung Wan เราสามารถเดินไป MTR ได้เลย แสนจะสะดวกสบายค่ะ

ออกจากเรือเพื่อไปผ่าน ตม. ใน Sheung Wan Ferry Terminal ฮ่องกง


การเดินทางในฮ่องกงควรที่จะมีบัตร Octopus หรือที่เราเรียกว่าบัตรปลาหมึกค่ะ สามารถใช้ได้ทั้ง MTR, เรือข้ามฟาก, รถเมล์, 7-11 หรือร้านอาหาร ก็ใช้ได้ค่ะ บ้านเราน่าจะมีอย่างนี้บ้าง เสียเงินใบละ 150 HKD โดยเป็นค่ามัดจำบัตร 50 HKD เราจะสามารถใช้ได้ 100 HKD เมื่อเราคืนจะถูกหัก 9 HKD เป็นค่าบัตรค่ะ บัตรนี้สะดวกมาก และราคาเดินถูกกว่าเราหยอดตู้ต่อครั้งค่ะ

ป้ายบอกราคาสำหรับบัตรประเภทต่างๆ

ไม่รีรอ ซื้อเลย

ได้บัตรมาแล้ว หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

การเดินทางด้วย MTR ในฮ่องกงง่ายมากค่ะ มีแผนที่บอกอย่างชัดเจน


ภาระกิจต่อไปคือไป Check-in ที่โรงแรม Xi Hotel อยู่ใกล้สถานี East Tsim Sha Tsui เป็นโรงแรมที่เชอรี่อ่านรีวิวเยอะมากจองผ่าน Agoda ในราคาคืนละ 4,000 บาทพร้อมอาหารเช้า (จะรีวิวโรงแรมนี้อีกทีค่ะ เพราะชอบจริงๆ)


ระหว่าง Check in พนักงานบริการดี ประทับใจมาก


กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราต้องไปหาอาหารอร่อยๆทานค่ะ และร้านที่พลาดไม่ได้คือ ข้าวหน้าห่านร้าน Yung Kee ที่เค้าบอกว่าอร่อยที่สุดในฮ่องกง แถว MTR Central เค้าก็ไม่ทำเราผิดหวังค่ะ หนังห่านกรอบเหมือนเป็ดปักกิ่งเลย

จานนี้ 60 HKD จานใหญ่มาก แต่หมดไม่เหลือแม้แต่เมล็ดข้าว


ด้วยความที่เป็นหนุ่มสาวที่ติด Social Network มาก เลย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ Internet เราเลยซื้อซิมของ SmartTone จาก IFC Mall คนละ 80 HKD เน็ตชั่วโมงละ 8 HKD ถ้าเล่นถึง 3 ชั่วโมงจะเสีย 24 HKD และเล่นฟรีตลอดทั้งวัน เน็ตที่นี่เร็วมากจนน่าตกใจ เร็วกว่า Wifi ที่บ้านอีก ทดสอบ speed test สูงถึง 20 Mbps เลยทีเดียว คุ้ม!! (แนะนำให้ซื้อในร้านเท่านั้นนะคะ เพราะถามมาหลายร้านขาย 150 HKD แหนะ)

จ่ายไป 80 HKD ใช้เน็ต Unlimited 3 วันยังเหลือเงินอีกนิดหน่อยค่ะ

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็ได้ พาเอ็มไปสักการะ Apple Store  ซึ่งสาขาแรกที่เราจะไปคือสาขา IFC Mall เป็นภาระกิจหลักของทริปนี้ก็ว่าได้ค่ะ สวยจริง รอรีวิวแบบละเอียดจากเอ็มนะคะ



ด้านหน้าของตึก IFC ค่ะ


Apple Store สาขาในตำนานแฟนพันธุ์แท้ Steve Jobs โดย  

ระหว่างที่เอ็มกำลังเพลิดเพลินและลืมไปแล้วว่าเชอรี่มาด้วย เชอรี่ก็ได้ใช้เวลานี้วิ่งไปช้อปปิ้งย่าน Central วิ่งไกลนะคะ แต่ดีกว่าเสียเวลาทิ้งเฉยๆ เจอร้าน H&M ใหญ่มาก ไม่รีรอ รีบวิ่งเข้าไปโดยพลัน แต่แล้วก็พบว่าเสื้อผ้าเหมือนบ้านเราเลย คำนวณแล้วราคาพอๆกัน หรือบางชิ้นก็แพงกว่า แต่แบบเยอะกว่าึค่ะ

กระโจนเข้าร้านนี้ วิ่งเช็คราคาทั่วร้านด้วยความเร็วสูง แต่ไม่ได้อะไรติดมือออกมา -_-"


จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือเฟอร์รี่ชมวิวสวยๆของเกาะฮ่องกงและเกาลูน จากนั้นก็เดินไปซื้อมะม่วงปั่นเจ้าโปรดที่ร้าน Hui Lau Shan ใกล้ๆป้ายรถเมล์ตรง Tsim Sha Tsui ค่ะ อร่อยมากค่ะ


วิวระหว่างนั่งเรือข้ามฟาก


มะม่วงปั่นใส่เยลลี่อร่อยค่ะ แนะนำเมนู A ราคา 35 HKD

เวลา 2 ทุ่มพอดี หาที่เหมาะๆ ชม Symphony of Lights ตามตารางวันนี้เป็นภาษาอังกฤษ เช็คก่อนเดินทางก็ดีนะคะ เพราะบางวันเป็นภาษาจีน ​

แสง สี เสียงทุกอย่างลงตัว กับอากาศดีๆกับคนรัก โรแมนติกนะคะ

เมื่อการแสดงจบแล้ว นั่งรถเมล์สาย 9 ชมวิวเมืองเรื่อยๆ ไปช้อปปิ้งที่ม่งก๊ก ซึ่งเป็นย่านที่ดูจะคึกคักที่สุดในฮ่องกงแล้ว ตอนกลางคืนจะมีการปิดถนนให้นักท่องเที่ยวได้เดินช้อปกันอย่างเต็มที่ มีกิจกรรมโชว์เต้นโชว์ เปิดหมวก รับถ่ายภาพเก๋ ฯลฯ ให้เราตื่นตาได้ตลอดทาง พร้อมกับร้านค้ามากมายที่ไม่ใช่แบรนด์ไฮโซ อาหารอร่อยๆให้เราเลือกทานได้ตลอด

รถเมล์ที่นี่นั่งไ่ม่ยากค่ะ มีเส้นทางและราคาบอกชัดเจน


มุมจากบนรถเมล์ ชมความคึกคักของเมืองฮ่องกงยามค่ำคืน


ข้าวหน้าห่านย่อยหมดแล้ว ท้องเริ่มร้อง เลยไปจัดหนักโจ๊กปลา, เกาเหลาลูกชิ้น, ก๋วยเตี๋ยวหลอด, คะน้าฮ่องกงราดซอส, ปลาท่องโก๋แสนอร่อยกันที่ร้าน ​Hung Lee แถว Hua Fook Street, Tsim Sha Tsui เป็นร้านที่อยากจะแนะนำค่ะ อร่อย ไม่แพง ชอบค่ะ (ไว้จะรีวิวอีกที)

สั่งอาหารตอนหิวมักเป็นเช่นนี้ค่ะ

วันนี้เดินไปกี่กิโลนับไม่ถูกเลยค่ะ ปวดขามากๆ ถ้าเปิดโปรแกรม Nike Plus คงนับได้หลายกิโลเลย ไม่ไหวแล้วค่ะ คืนแรกขอซุกเตียงนุ่มๆนอนก่อนแล้วกัน คร๊อกกกก Z Z z z . . .




Comment

Ads